สายน้ำในป่าใหญ่Akame 48 Waterfalls สถานที่เดินเที่ยวและพักผ่อนของคนรักธรรมชาติ

สายน้ำในป่าใหญ่Akame 48 Waterfalls สถานที่เดินเที่ยวและพักผ่อนของคนรักธรรมชาติ

แหล่งเดินป่ารูทง่ายๆและสัมผัสกับเจ้าซาลาแมนเดอร์ยักษ์สัตว์หายากที่อาจจะทำให้เราตื่นเต้นและไม่คิดว่าเจ้านี่จะมีอยู่บนโลกจริงๆ ที่Akame 48 Waterfalls หรือน้ำตก 48 สายแห่งอากาเมะ เป็น 1 ใน 100 อันดับน้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น อยู่บริเวณพรมแดนระหว่างจังหวัดมิเอะ (Mie) กับจังหวัดนารา เมื่อร่างกายพร้อมแล้วก็เตรียมตัวเดินทางเข้าสู่ป่าใหญ่กันเลย

Profile:GOY

สาวผู้รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานเขียนและท่องเที่ยว ชอบธรรมชาติรักประเทศญี่ปุ่นและชอบทานอิเสะเอบิมาก การได้มาสำรวจและเดินทางผจญภัยในจ.มิเอะจึงเป็นความสุขอย่างที่สุด และด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ที่เที่ยวเยอะ ผู้คนใจดีจึงทำให้ตกหลุมรักเมืองนี้อย่างง่ายดายจนต้องมาแล้วมาอีก


แผนที่การเดินป่าเพื่อไปชมน้ำตกและธรรมชาติอย่างง่ายๆการเดินเท้าเข้าไปก็ไม่ได้ยากอะไรมาก แต่เราต้องมีรองเท้าคู่ใจที่ดีเพราะเมื่อพูดถึงป่าแล้ว ก็ต้องมีทั้งทางลาดชันและทางขรุขระภาพน้ำตกจุดแรกในแผนที่ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากทางเข้ามากเท่าไหร่ทำให้เราตัดสินใจเดินไปเที่ยวชมอย่างง่ายดาย

สัญลักษณ์ตัวซาลาแมนเดอร์แบบน่ารักน่าชังที่มารอต้อนรับแต่เมื่อซื้อตั๋วด้านหน้าแล้ว เมื่อเดินขึ้นตึกเราจะต้องผ่านจุดที่รวบรวมซาลาแมนเดอร์ของจริงทั้งหลายในตู้และตอนนี้ความระทึกใจจะเริ่มขึ้นแล้ว

ที่นี่ก็เหมือนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซาลาแมนเดอร์ยักษ์ญี่ปุ่นที่รวบรวมกันมาจากหลายที่ มีราว 50 ตัว ส่วนใหญ่จะนอนนิ่งๆ ขยับตัวบ้างในบางครั้งด้วยความที่ตู้ของแต่ละตัวจะวางติดทางเดินทำให้เรามองดูเจ้านี่ได้อย่างใกล้ชิดและตื่นตาและติดตา อูยยย

แล้วเราก็เดินผ่านออกไปได้ด้วยความรู้สึกโล่งใจเข้าสู่ทางเดินธรรมชาติสู่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีน้ำตกสวยรอเราอยู่ ทางที่เดินไปค่อนข้างเดินง่ายไม่ลาดชันมาก เราไปถึงน้ำตกแรกด้วยเวลาที่ไม่นานมากนักน้ำตกไหลลงมาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ขนาดใหญ่พอสมควร

รูปปั้นวัวน่าเกรงขามตรงทางขึ้นบันไดที่เรากำลังจะเดินผ่านต่อไปเพื่อไปยังจุดชมวิวตรงสะพานด้านบน

วิวที่มองลงมาจากบนสะพานนั้น เราจะมองเห็น แอ่งน้ำและขนาดของแอ่งน้ำดูใหญ่โตมากขึ้นมาทันทีที่มีคนเดินลงไปอยู่ตรงนั้นน้ำใสมากจนมองเห็นหินที่อยู่ด้านล่างอย่างลึกที่สุด

ความสวยงามและเสียงของน้ำตกที่ไหลซ่าลงมาเป็นระยะ ทำให้ผู้เดินทางต้องหยุดกดชัตเตอร์ตรงนี้นานๆ

น้ำตกแห่งแรกนี้ ชื่อว่า Fudo เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของที่นี่ มีลักษณะเป็นแอ่งวงกลม สีของน้ำเป็นเขียวมรกต น้ำตกมีความสูงราว 15 เมตร

จากนั้นเราก็เดินไปต่อที่น้ำตกแห่งที่สอง ตามทางเดินช่วงนี้จะเป็นทางเรียบ เดินง่าย สามารถหยุดถ่ายภาพได้ตลอดเวลา เพราะด้านข้างคือวิวลำธารน้ำไหลช้าๆ

ที่นี่เหมาะแก่การมานั่งชมวิวธรรมชาติทุกฤดูจริงๆ ไม่ว่าจะหน้าร้อนที่มีใบไม้สีเขียวสด ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือแม้แต่หน้าหนาวที่จะเจอหิมะปกคลุมขาวโพลนและทำให้สายของน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็งสวยงามจับใจ

ระหว่างทางเดิน ก็มีที่ให้เรานั่งพักผ่อนได้เรื่อยๆตลอดทาง เป็นรูทการเดินป่าที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก

เราเดินมาถึงน้ำตกแห่งที่สองแล้ว น้ำตกนี้ชื่อว่า Senju คือหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของที่นี่เหมือนกัน ใกล้ๆแอ่งน้ำคือหินขนาดใหญ่ลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมค่อนข้างแปลกตามาก น้ำตกมีความสูง 15 เมตร

ด้วยความที่เป็นฤดูหนาว ทำให้มืดเร็วพร้อมทั้งได้ยินเสียงประกาศของเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มีไฟตามทางเดิน ทำให้เราต้องแพลนเวลาเดินกลับให้เร็วขึ้น และมาแวะที่ร้านขายสินค้าของฝาก และร้านอาหารด้านหน้า

ที่นี่ยังมีขนมมันจู ไส้ถั่วแดงแบบนึ่งสดๆด้วย คนทำขนมเป็นคุณป้ารุ่นเดอะ ที่คุยกับเราไปหัวเราะไปอย่างออกอรรถรส

ตรงข้ามฝั่ง มีร้านขนมมันจู Hekoki-Manju ชื่อดังของที่นี่ รูปร่างหน้าตาเหมือนนินจา ด้านในเป็นมันเทศกวนมีให้เลือกหลายรสชาติ เช่น ไส้แอปเปิ้ล ครีมชีส หรือถั่วแดงเป็นต้น ความหมายของชื่อขนมนี้คือ ทานแล้วจะผายลม ฮ่าๆ แต่อร่อยนะ ราคาชิ้นละ 200-250 เยน


รายละเอียด Akame 48 Waterfalls

ที่อยู่ 

〒518-0469

861-1 Ngasaka Akame Cho, Nabari-shi, Mie

เวลาทำการ8:30-17:00 ( 9:00-16:30 สำหรับช่วง1 ธันวาคม - 31 มีนาคม)

เวบไซต์ http://ninja-valley.com/


ข้อสรุป

การได้ใช้เวลากับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ถือเป็นการเติมเต็มวันว่างได้อย่างดี สีเขียวสดของใบไม้เสียงแห่งธารน้ำไหลและน้ำตกที่ตกกระทบลงมายังผืนน้ำด้านล่างคือเสียงของการบำบัดจากธรรมชาติอย่างที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยว่าเรารู้สึกผ่อนคลายแค่ไหนจ.มิเอะ ยังมีอีกหลายสถานที่สวยงามที่ยังรอการค้นหาจากนักเดินทาง

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้