Ise Ninja Theme Park: ศาสตร์แห่งอิเสะนินจาภายในดินแดนที่เต็มไปด้วยค่ายกลมากมาย เข้ามาแล้วหาทางออกไปให้ได้ล่ะ
ถ้าเคยดูหนังนินจาที่พวกเค้าโพกผ้าปิดหน้าปิดตา วิ่งเร็ว กระโดดสูง แฝงตัวให้กลมกลืนกับธรรมชาติ และใช้อุปกรณ์นินจาได้คล่องแคล่วว่องไว เพราะพวกนินจาเป็นเหมือนสายลับ จึงไม่สามารถทิ้งร่องรอยเอาไว้ได้ จึงต้องฝึกความคล่องตัวและไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนส่วนมากรู้ได้ว่ามีนินจาแฝงตัวเข้ามาอยู่ที่นี่ และที่ Ise Ninja Theme Park คุณสามารถดูนินจาโชว์การใช้อาวุธและการใช้ชีวิตของพวกเค้าได้
Profile:GOY
สาวผู้รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานเขียนและท่องเที่ยว ชอบธรรมชาติรักประเทศญี่ปุ่นและชอบทานอิเสะเอบิมาก การได้มาสำรวจและเดินทางผจญภัยในจ.มิเอะจึงเป็นความสุขอย่างที่สุด และด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ที่เที่ยวเยอะ ผู้คนใจดีจึงทำให้ตกหลุมรักเมืองนี้อย่างง่ายดายจนต้องมาแล้วมาอีก
เมื่อเดินเข้ามาด้านในรั้ว ก็จะเจอกับโคมไฟประดับมากมายแน่นอนว่าโคมไฟเหล่านี้จะถูกเปิดส่องสว่างยามเย็นทันทีที่แสงอาทิตย์ค่อยๆลับหายไปด้านหลังนั้นคือปราสาท ซึ่งกำลังถูกปรับปรุงให้เป็นโรงแรมแต่ต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักจึงจะเสร็จ
ด้านในมีทั้งร้านอาหารและออนเซ็นสำหรับแช่ผ่อนคลาย หรือเราจะเลือกแค่แช่ออนเซ็นก็ได้ เผื่อเราเดินเล่นบริเวณในนี้หมดแล้วอยากจะแช่ออนเซ็นก่อนกลับบ้านก็ทำได้ สามารถเลือกซื้อตั๋วตามประเภทที่เราต้องการตั้งแต่ตรงจุดทางเข้าได้เลย ด้านในนี้ยังมีจุดบริการให้ยืมชุดนินจาใส่เปลี่ยนฟรีมีหลายสี เพื่อการได้เข้าถึงจิตใจและอารมณ์แห่งนินจาในขณะเดินอยู่ที่นี่
หญิงสาวในชุดกิโมโนนี้เราเรียกว่า โออิรัน เราสามารถพบเจอเธอได้ทั่วไปเพราะเธอจะเดินไปทักทายแขกตรงจุดนั้นจุดนี้ตลอดเวลา ถ้าเราเจอก็ขอถ่ายรูปได้ สถานที่นี้ออกแบบจำลองมาให้เหมือนเมืองนินจาในสมัยก่อนดังนั้นไม่ว่าเราจะยืนถ่ายรูปมุมไหนก็จะได้รูปสวยบรรยากาศสมจริงของเมืองนินจากลับไปด้วย
ก้าวเข้ามาภายในร้านขายสินค้าที่ระลึกก็ต้องตกใจกับหุ่นนินจาขนาดเท่าคนจริงเริ่มมีการระแวงแล้วว่าหุ่นหรือนินจาแอบปลอมตัวมา (ฮ่าๆ)สินค้าที่ระลึกด้านในก็เกี่ยวกับนินจา ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ขนม เสื้อ หมวกเครื่องเขียน ของฝาก
หอสูงนี้คือจุดให้ทดลองประสบการณ์การผจญภัยแบบไต่เชือกโหนสลิงมีหลายระดับความยากให้เราได้เลือกเล่นเมื่อเลือกแล้วจะต้องไปเริ่มคอร์สเส้นทางจากด้านบนเขาโดยการขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงด้านบนสุดแล้วค่อยเริ่มกิจกรรมโลดโผนจากตรงนั้นลงมาตามด่านต่างๆ
ด้านหน้าโรงละครที่ใช้เป็นฉากสำคัญของหนังเกี่ยวกับนินจาคนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปดูด้านในได้ แต่เห็นแค่ภายนอกนี้เราก็ยังคิดว่าสวยมากๆ เลยและเหมือนจริงมากขึ้นไปอีกเพราะเห็นบรรดานินจาเดินไปมาๆตลอดเวลา
ทางเข้าเขาวงกตและบ้านแห่งความลับของนินจาแห่งนี้จะมีค่ายกลมากมายในระหว่างเส้นทางที่เราเดินหาทางออกอยู่แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะหาทางออกเจอนะ ที่นี่ถึงต้องมีป้ายเขียนว่าทางออกทางลัดให้สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะไปทางออกไหนแล้ว เพราะทางเดินลับ ลวงพรางมาก หากใครคิดว่าทำได้สบาย ก็ต้องมาลองสักครั้งนะจ๊ะ
ลักษณะประตูแต่ละบาน เมื่อดูผิวเผินก็เหมือนบานประตูฉากทั่วไปแต่ขอบอกว่าเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีทางออกจ้าต้องเดินย้อนกลับมาลูบๆคลำๆหาจุดสังเกตว่าประตูบานไหนน่าจะเป็นบานพิเศษที่สามารถพาเราออกจากที่นี่ได้เดินไปมาหลายรอบ ไม่เจอ (ฮ่าๆ)
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปมากมายจริงๆแม้แต่เสาโทริอิสีแดงและสะพานแดงที่เราจะเห็นได้ตามวัดหรือศาลเจ้าต่างๆที่นี่ยังมีร่มกระดาษสาลวดลายสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ยืมใช้เวลาฝนตกด้วยนะพอได้ถือร่มมาถ่ายรูปมุมนี้ โอ้โห สวยราวภาพวาดจริงๆ
มุมกว้างของสระน้ำที่เราจะมองเห็นปราสาทนินจาอิเสะที่อยู่บนยอดเขาอย่างชัดเจนสังเกตว่าการออกแบบทุกอย่างย้อนยุคไปสู่สมัยโบราณจริงๆ ทั้งเรือโดยสารลำเล็กสีสันของโคมไฟ เมื่อในวันที่น้ำสงบนิ่งเรายังเห็นภาพสะท้อนบนผิวน้ำเสมือนเป็นกระจกแบบในภาพเลย
ความสนุกของที่นี่คือเหล่านินจาที่เดินหายแวบไปมาอย่างรวดเร็วถ้าหากเราอยากถ่ายรูปกับนินจาท่านนั้น เราต้องรีบเข้าไปขอถ่ายรูปเลยนะเพราะพอเราเดินจากไป แล้วหันกลับมาอีกทีนินจาก็หายวับไปอีกแล้วบรรยากาศด้านหลังคือจำลองร้านโซบะ ร้านน้ำชา ร้านขายของในยุคเก่า
กรี๊ดสลบ เมื่อเจอเหล่านินจาหนุ่มมากันครบทีมแบบนี้หลังจากที่เราดูการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของทีมอิเสะนินจานี้เสร็จแล้วความตื่นเต้นยังไม่จางหายไป ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความตื่นตาอีกครั้งเพราะพวกเค้าจะมายืนรอเราอยู่ตรงทางออก อยากยืนถ่ายรูปด้วยตรงไหน ถ่ายแบบไหนแอคติ้งยังไง บอกได้หมดรับรองว่าได้ใกล้ชิดและได้ภาพเก๋ๆจากเหล่าบรรดานินจากลับไปอวดเพื่อนๆแน่นอน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการได้ลองหัดยิงธนูตามวิถีของนินจา เริ่มจากจับลูกธนูมา วางบนมือให้มั่นค่อยๆง้างมือดึงให้ตึงที่สุด แล้วปล่อยออกไป แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่านินจามือสมัครเล่นอย่างเราจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นนินจาแถวหน้าได้ไหมตอนนี้ขอตัววิ่งไปเก็บดอกธนูที่ตกไปฝั่งโน้นก่อนนะ
หากจะชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็ยังมีต้นโมมิจิใบสีแดงสดให้ได้ถ่ายรูปด้วยนะเรายังเห็นบรรยากาศสีสันสวยงามแบบนี้แม้ในช่วงต้นธันวาคม และด้วยการออกแบบอาคารต่างๆทำให้ทุกอย่างออกสู่สายตาอย่างสวยงามลงตัวที่สุด
รายละเอียด Ninja Kingdom Ise
เวบไซต์ http://www.ise-jokamachi.jp/th/
เวลา 09:00 น. ‒17:00 น.
ร้านอาหารเปิดถึง20.00 น.
ออนเซ็น เปิด11.00น - 22.00 น.
ค่าเข้า Free passผู้ใหญ่ 4900 เยน
ระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย3500 เยน
ระดับประถม3000 เยน
การเดินทาง
จาก JR Futamiura Station เดิน 15 นาที
จาก IsuzugawaStation นั่งแท็กซี่ใช้เวลา 15 นาที
หรือนั่งรถบัสจากสถานีนี้มาก็มีชั่วโมงละ 2 คัน
ขากลับรอบค่ำ มีรถบัสบริการส่งฟรี จาก Ninja Kingdom Ise - Toba station(JR*Kintetsu)
มีสองรอบคือ20.00 น. และ 21.00 น.(ใช้เวลา 20 นาที)
อ่านเพิ่มเติม http://www.ise-jokamachi.jp/en/access/
ข้อสรุป
Ninja Kingdom Ise คือสถานที่ที่เราจะได้สัมผัสวัฒนธรรมเก่าแก่และเรียนรู้ภูมิปัญญาจากญี่ปุ่นโบราณมีการแสดงที่ยอดเยี่ยม อาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ กิจกรรมท้าทายความสามารถเรียนรู้วิถีนินจา เห็นดาบและอาวุธของเหล่านักรบที่กล้าหาญตั้งแต่โบราณแล้วยังได้ร่วมกิจกรรมมากมายอย่างเต็มอิ่มที่นี่ทำให้วันดีๆของเรานั้นสนุกสนานในหนึ่งวันจริงๆ