หนีร้อนไปพึ่งทะเล ที่ Onigajo ผาหินทรงแปลกที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจทันทีที่พบเห็น

Profile：GOY
สาวผู้รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานเขียนและท่องเที่ยว ชอบธรรมชาติรักประเทศญี่ปุ่นและชอบทานอิเสะเอบิมาก การได้มาสำรวจและเดินทางผจญภัยในจ.มิเอะจึงเป็นความสุขอย่างที่สุด และด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ที่เที่ยวเยอะ ผู้คนใจดีจึงทำให้ตกหลุมรักเมืองนี้อย่างง่ายดายจนต้องมาแล้วมาอีก

การเดินทางคือใช้รถยนต์ขับมาจอดที่ลาดจอดรถของที่นี่ได้เลยตลอดทางจะเห็นวิวทะเลสีฟ้าสดสวยแบบนี้ เป็นการขับรถชมวิวที่ชอบมากๆด้านล่างมีชายหาด ที่สามารถลงไปเดินเล่นได้

บริเวณลานจอดรถบริการจอดฟรี  มีจุดขายของที่ระลึกมีแผ่นพับให้ข้อมูลท่องเที่ยวของเมืองนี้และใกล้เคียง มีห้องน้ำ ร้านอาหารและเก้าอี้โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนและชมวิวได้

แผนผังเส้นทางเดินเที่ยวกรุณาสวมใส่รองเท้าผ้าใบที่เดินง่าย ใช้เวลาที่นี่ราว 1-2 ชั่วโมงแต่ถ้าใครมีเวลาน้อย ก็อยู่แค่จุด Senjojiki ก็ได้ นั่งชมวิวได้เหมือนกันแต่ถ้าเดินให้ครบหมดจะเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรเลยนะ

ร้านอาหาร และร้านขายของฝาก มีลักษณะยาวลงมาถึงด้านหลังออกแบบมาสวยทันสมัย มีคาเฟ่ชื่อ Sorrento ซึ่งมาจากภาษาอิตาลีเป็นร้านค้าที่สวยและมีเอกลักษณ์มาก

เส้นทางลาดให้เดินลงไปยังจุดชมวิวเป็นทางที่จะนำเราไปสู่วิวทิวทัศน์อันสวยงามแสงอาทิตย์ยามบ่ายยิ่งทำให้ผิวของน้ำทะเลมีแสงระยิบระยับตลอดเวลา

มีพระพุทธรูปตั้งเรียงไว้ตามข้างทางตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นเราจะหยุดกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเพราะในตำนานเล่าขานมาว่าหินนี่เป็นที่อาศัยของเหล่ายักษ์ ปีศาจ รวมถึงโจรสลัดแต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องเล่าในอดีต

เราเดินลงไปต่อยังจุดชมวิวที่นี่เป็นเส้นทางยอดนิยมของนักแสวงบุญด้วยนะ สำหรับเส้นทางแสวงบุญเรียกว่า  Kumano Kodo ที่ผ่านจังหวัดมิเอะและวาคายามะ

มาถึงแล้ว ผาหินรูปร่างประหลาด เค้าบอกว่าเหมือนจระเข้แต่เราว่าเหมือนปลาฉลามเนอะ หรือใครคิดว่าเหมือนอะไรคะ  จุดด้านหน้าเป็นเหมือนทางลอดและนี่คือหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของที่นี่

Onigajo เป็นกำแพงหินที่สวยงามทอดตัวยาวประมาณ 1.2 กม.รอบแหลมเล็ก ๆ ใกล้กับเมือง Kumano ในจังหวัดมิเอะ　ความสวยแปลกตาทำให้ต้องมานั่งชมใกล้ๆขึ้นมานั่งฟังเสียงน้ำเซาะทราย มองทะเลสีฟ้า ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นระยะๆ  เบื้องหน้าก็เป็นวิวทะเลที่งดงามมากๆ

รูปทรงแปลก ๆ ของก้อนหินที่ Onigajo นั้นถูกสร้างขึ้นมานับพันปีโดยพลังการกัดกร่อนของลมและคลื่น

ทำให้หินเกิดรูปทรงประหลาดและสวยงามในขณะเดียวกันขนาดมาเห็นกับตายังแทบไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้จะมีอยู่จริงๆตามธรรมชาติ

มีเส้นทางเดินไปตามริมขอบผาที่นอกจากจะชมวิวอันงดงามแล้วยังเป็นกิจกรรมออกกำลังกายของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนด้วยหลังจากถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติแห่งชาติในปี 1935

ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100วิวยอดนิยมของญี่ปุ่น

ทำให้เราก็ต้องขึ้นไปชมวิวบ้าง และไม่ผิดหวังจริงๆยิ่งยืนอยู่สูงก็ยิ่งเห็นวิวทะเลชัด ทางเดินเป็นแบบขั้นบันได เดินค่อนข้างง่าย

นอกจากนี้เมื่อคุณมาที่Onigajoคุณไม่ควรพลาดชมทัศนียภาพอันงดงามของOnigajoและหินสิงโตทรงพลัง ( Shishi-iwa ) มีความสูง 25เมตรใกล้ Onigajo มีลักษณะเหมือนสิงโตอ้าปากคำรามหันหน้าออกไปทางทะเลคุณสามารถสัมผัสพลังแห่งธรรมชาติที่ก่อตัวขึ้นของพื้นดินและปรากฏการณ์การกัดเซาะในสมัยญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่ามีเทพทรงอยู่ในหินก้อนใหญ่  ดังนั้น Shishi-iwa จึงเป็นสถานที่สำคัญมากสำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลานั้น

ขากลับลงมา แวะทานซอฟท์ครีมรสออริจินัลของที่นี่กันหน่อยรสนิฮิเมะ ออกเปรี้ยวหวาน อร่อยดีนะ ราคา 350 เยนนอกจากจะมีไอศครีมแล้วยังมีขนมพื้นเมืองด้วย ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์มาจากส้ม

ภายในขายสินค้าของเมืองมิเอะ มีทั้งขนม ราเมง สาเกเสื้อยืด และของกระจุกกระจิก ถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะมีส้มสดวางขายด้วยแนะนำลองซื้อทานเลย หวานอร่อยจริงๆ

รายละเอียด Onigajo

ที่อยู่         1835-7 Kinomotochō Kumano Mie

เวบไซต์     http://onigajyo.jp/

พิกัด          https://goo.gl/maps/MaUZTRDJyeRnJezu6

เวลา         9:00 น. - 17:00 น.

โทรศัพท์   0597-89-1502

เดินทาง      รถยนต์ หรือ ด้วย JR Kiseihonsen line (JR紀勢本線) แล้วลงรถไฟที่สถานี Kumanoshi     จากนั้นนั่งรถบัส Mie Bus ใช้เวลา 10 นาทีลงที่ป้าย Onigajō West Exit (鬼ヶ城西口) เดินต่ออีก5 นาทีก็ถึง

สรุป

สถานที่สวยๆมักจะทำให้คุณหลงรักโดยไม่รู้ตัวเราเองก็เหมือนกัน ได้มาเห็นธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาและได้ดูอย่างใกล้ชิดถือว่าเป็นกำไรของทริปแล้ว จ.มิเอะยังมีอะไรสวยๆให้ดูอีกเยอะเลยทำให้การเดินทางครั้งต่อไปในจ.มิเอะ ตื่นเต้นจริงๆ