หลอมรวมธรรมชาติเข้ากับประวัติศาสตร์บนเส้นทางแสวงบุญคูมาโนะโคโดอันเก่าแก่
เส้นทางแสวงบุญคูมาโนะโคโดเป็นเส้นทางแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์และได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก
ผู้คนได้ใช้งานเครือข่ายอันกว้างใหญ่ของเส้นทางนี้ในการเดินทางมายาวนานกว่า 1,000 ปี
และเส้นทางนี้ยังมีระดับความยากในการเดินป่าที่หลากหลายเพื่อผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งทุกท่าน
สำหรับผู้มาเยือนที่กำลังมองหากิจกรรมทำ 1 วันในมิเอะ
การมาสัมผัสประสบการณ์ปั่นจักรยานและวิ่งเทรลในเส้นทางคูมาโนะโคโดอันศักดิ์สิทธิ์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
ทริปท่องเที่ยวแบบหนึ่งวันเต็มนี้เริ่มต้นบนจักรยานไฟฟ้าเวลา 9:00 และจบเวลา 16:30
จากนั้นจะส่งผู้ร่วมทริปกลับไปยังเกสต์เฮ้าส์ คุณสามารถมาสัมผัสประสบการณ์นี้ได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูกาลก็จะมอบการผจญภัยในแบบที่แตกต่างกันออกไป
ค่าใช้จ่ายในการร่วมทริปคือ 10,000 เยนต่อท่าน
โดยราคานี้รวมค่าเช่าจักรยานไฟฟ้าและข้าวกล่องมื้อกลางวันซึ่งทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นสำหรับรับประทานพร้อมกับชมทิวทัศน์จากบนยอดเขาแล้ว
หลอมรวมธรรมชาติเข้ากับประวัติศาสตร์บนเส้นทางแสวงบุญคูมาโนะโคโดอันเก่าแก่
บทความโดย เวิร์น เบ็กก์
เกี่ยวกับผู้เขียน:
ผมเชื่อว่าการออกไปท่องเที่ยวเป็นโอกาสที่เราจะสามารถเติมเต็มจิตวิญญาณของเราได้ ผมจะไม่มีวันเลิกออกไปสำรวจโลกที่แสนพิเศษนี้อย่างแน่นอน
ผมเกิดที่ประเทศแคนาดาและปัจจุบันนี้ผมพักอาศัยอยู่กับครอบครัวของผมที่โอซากา
ผมได้เรียนรู้ว่าประเทศญี่ปุ่นช่างเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสำหรับการออกไปสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างยิ่ง
ผมเคยอ่านเกี่ยวกับเส้นทางคูมาโนะโคโดและทราบว่ามันจะเป็นโอกาสสำคัญในการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและทำความรู้จักกับเส้นทางแสวงบุญอันเก่าแก่นี้ให้
มากยิ่งขึ้น เส้นทางเดินป่าในส่วนนี้เป็นเส้นทางซึ่งเชื่อมต่อจากอิเซะจิงงูไปยังคูมาโนะซันซังที่มีศาลเจ้าใหญ่ 3
แห่งตั้งอยู่รวมกันทางตะวันออกเฉียงใต้ของแนวเทือกเขาคิอิ
ผมเริ่มต้นวันนี้ด้วยการกระโดดขึ้นจักรยานไฟฟ้าที่เกสต์เฮ้าส์ของผมและมุ่งหน้าไปยังท่าเรือนิชิกิ
จากตรงนั้นผมได้ปั่นจักรยานประมาณ 20 กิโลเมตรไปยังคิอิ-นางาชิมะ การปั่นจักรยานผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ
ริมชายฝั่งนับเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการออกไปรับชมบางส่วนของประเทศญี่ปุ่นผ่านมุมมองใหม่ ๆ
การปั่นจักรยานในประเทศญี่ปุ่นสำหรับผมแล้วถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการออกเดินทางไปท่องเที่ยวและชมสถานที่ใหม่ ๆ
หลังจากปั่นจักรยานมาถึงที่คิอิ-นางาชิมะแล้ว ผมจอดจักรยานของผมและพวกเราก็มุ่งหน้าต่อไปที่ภูเขา
ความคาดหวังในการเดินป่าของผมก็เริ่มจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อพวกเราเข้าไปสู่พื้นที่ชนบทอันงดงาม
นี่เป็นประสบการณ์ของทริปท่องเที่ยวแบบเต็มวันซึ่งเริ่มต้นเวลา 9:00 และใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง (ปั่นจักรยาน 1.5 ชั่วโมงและวิ่งเทรล 4 ชั่วโมง) ค่าใช้จ่ายท่านละ 10,000 เยน ซึ่งรวมค่าเช่าจักรยานไฟฟ้า ข้าวกล่องมื้อกลางวัน และแผนที่บอกเส้นทางแล้ว
คุณสามารถเข้ามาร่วมทริปสัมผัสประสบการณ์ปั่นจักรยานและวิ่งเทรลในเส้นทางคูมาโนะโคโดอันศักดิ์สิทธิ์ได้ในทุกฤดูกาล
ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เหมาะกับคุณมากที่สุดได้ โดยวันที่ผมเลือกมามีอุณหภูมิ 28 องศา ท้องฟ้าสดใสและไม่มีลม ถือเป็นวันที่สมบูรณ์แบบมาก หลังจากปั่นจักรยานเสร็จแล้ว ผมก็เตรียมพร้อมสำหรับการเดินขึ้นยอดเขาสึสึราโตะ-
โทเงะและยอดเขานิซากะ-โทเงะร่วมกับคุณนากามูระและคุณทากะซึ่งเป็นไกด์นำทางของผม
ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปในป่า คุณนากามูระได้อธิบายให้ผมฟังคร่าว ๆ เกี่ยวกับเส้นทางเดินป่าในครั้งนี้รวมไปถึงความสำคัญของมันในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
และคุณทากะก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับคำอธิบายอื่น ๆ เกี่ยวกับภูเขาแห่งนี้
พวกเราได้เดินเลียบลำธารในป่าไปพร้อมกับฟังคำแนะนำและคำอธิบายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
เมื่อพวกเราไปถึงจุดเริ่มต้นการเดินป่าในเส้นทางแรก พวกเราก็รีบเดินขึ้นเขาเลยในทันที
มีขั้นบันไดถูกสร้างเอาไว้ตรงบริเวณเนินที่มีความชันเพื่อช่วยให้คุณสามารถเดินได้สะดวกเช่นเดียวกับเส้นทางเดินป่าอื่น ๆ ในประเทศญี่ปุ่น
เมื่อผมมองลงไปที่ฝั่งขวาของเส้นทางเดินก็มองเห็นป่าซึ่งมีแต่ต้นไม้ที่สูงและผอมเต็มไปหมด
ชื่อของยอดเขานี้มาจากคำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งมีความหมายว่าคดเคี้ยวและเส้นทางก็คดเคี้ยวสมกับชื่อของมันเลยทีเดีย
ว พวกเราแทบจะไม่ได้เดินตรงไปข้างหน้าเกินกว่า 10 เมตร
ผมมักจะคลาดสายตาจากคุณนากามูระแล้วก็พบว่าเขากำลังยืนรออยู่ที่หัวมุมของเนินถัดไป อีกสาเหตุหนึ่งคือมีต้นเฟิร์นและพืชชนิดอื่น ๆ
ปกคลุมอยู่หนาแน่นไปทั่วเนินเขาด้วย
ผมชื่นชอบการได้พบเห็นสัตว์ต่าง ๆ ตามธรรมชาติโดยไม่คาดคิด อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นเองก็มีทั้งสัตว์ แมลง และนกชนิดต่าง ๆ
จำนวนมากมายหลายสายพันธุ์ซึ่งคุณอาจจะพบเห็นพวกมันได้หากคุณอยู่ถูกที่ถูกเวลา
แน่นอนว่าผมเองต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอเพื่อไม่ไปรบกวนถิ่นที่อยู่หรือหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พวกมัน
ในการเดินป่าครั้งนี้พวกเราโชคดีที่ได้พบเห็นงูที่ใต้ต้นไม้ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตรจากเส้นทางเดิน รวมถึงเห็นฝูงคางคกตัวเล็ก ๆ
กำลังกระโดดอยู่ท่ามกลางเศษกิ่งไม้ใบหญ้าบนพื้นดิน
ในบางส่วนของเส้นทางเดินซึ่งพื้นดินได้ขาดหายไปก็พบว่ามีทางเดินซึ่งคนสร้างขึ้นมาแทน
ทางเดินเพิ่มเติมเหล่านี้ทำออกมาได้ดีมากจนพวกเรารู้สึกราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของภูเขา
การดูแลเอาใจใส่ที่เพิ่มเติมเข้ามาในเส้นทางเดินเช่นนี้ช่วยให้นักเดินป่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นระดับไหนก็ตามสามารถเข้ามาเดินป่าในเส้นทางคูมาโนะโคโดได้
ส่วนที่เพิ่มเติมเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างดีและมีความแข็งแรงทนทานจึงช่วยเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยในการเดินป่าได้มากยิ่งขึ้น
คำบรรยายภาพ: สะพานทางเดินที่สวยงามบนส่วนทางเดินแคบๆ ในเส้นทางเดิน
ผมชอบความรู้สึกของการได้เข้ามาอยู่ในบริเวณส่วนลึกของป่าริมภูเขาเมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปและลองคาดเดาอายุของต้นไม้
รวมถึงลองนึกถึงผู้คนที่ได้เดินตามรอยเส้นทางนี้มาตลอดกว่า 1,000 ปีที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นเพียงแค่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
การเดินป่าในครั้งนี้มีมุมธรรมชาติที่สวยงามมากจนผมต้องหยุดพักเพื่อใช้เวลาดื่มด่ำกับความสวยงามนั้นอยู่หลายจุดเลยทีเดียว
คำบรรยายภาพ: เงยหน้าขึ้นไปมองความสวยงามของป่าไม้
เมื่อพวกเราขึ้นไปถึงยอดเขาของเส้นทางแรกผมมองเห็นป้ายบอกข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งดูเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา
คุณสามารถจินตนาการได้ถึงจำนวนของพายุฝนลูกแล้วลูกเล่าซึ่งป้ายบอกข้อมูลเก่า ๆแผ่นนี้ได้ฝ่าฟันผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายปี
อากาศในวันนั้นไม่ค่อยร้อนเท่าไรแต่ผมเองก็ได้เหงื่อจากการเดินป่ามาพอสมควรเมื่อไปถึงยอดเขาแล้ว ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้วางสัมภาระลง มานั่งดื่มน้ำเย็น ๆและเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนู
คำบรรยายภาพ: บนจุดสูงสุดของยอดเขามีป้ายบอกข้อมูลเก่าๆ ที่เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาแผ่นนี้
สำหรับผมแล้วมีเพียงไม่กี่อย่างในชีวิตที่ผมรู้สึกประทับใจเทียบเท่ากับการเดินขึ้นไปถึงยอดเขาในการเดินป่าและนั่งเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์บนนั้น
มันช่างเป็นวันที่พิเศษเมื่อผมได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของยอดเขาสึสึราโตะ-โทเงะและทิวทัศน์จากบนนั้นก็งดงามมาก
นอกจากนี้ยังมีความอบอุ่นจากมิตรภาพที่คุณได้ร่วมแบ่งปันกับกลุ่มของคุณเมื่อไปถึงเป้าหมายร่วมกันด้วย
คำบรรยายภาพ: ไกด์นำทางของผมกำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาหลังจากที่พวกเราขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว