วิ่งเทรลริมทะเลและทำพิซซ่าในสไตล์ท้องถิ่น วิ่งสูดอากาศสดชื่นจากทะเลและทำพิซซ่าด้วยเตาอิฐ
เส้นทางริมทะเลของเมืองไทกิมีความงดงามอันน่าทึ่ง รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงของระดับความสูงหลากหลายระดับสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งเทรลด้วย โดยนักวิ่งจะได้วิ่งผ่านเส้นทางทั้งแบบป่าทึบ แบบภูเขา และแบบอื่น ๆ พร้อมกับชมทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของชายฝั่งทะเล
เกสต์เฮ้าส์ “ซันซุย” ให้บริการแขกผู้มาเยือนด้วยบรรยากาศแสนสบายในสไตล์ดั้งเดิม รวมถึงมีบริการให้คุณได้ลองสัมผัสประสบการณ์ทำอาหารอีกหลายอย่าง การลองทำอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการทำพิซซ่าเตาอิฐในสวนและต่อด้วยการฉลองเพื่อลิ้มลองรสชาติของผลงานที่คุณลงมือทำเอง
หากคุณชื่นชอบการวิ่งและอาหารอร่อย ผมคิดว่าแพ็กเกจ “วิ่งเทรลริมทะเลและทำพิซซ่าในสไตล์ท้องถิ่น” ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับใช้เวลา 1 วันภายในเมืองไทกิ นี่เป็นประสบการณ์ของทริปท่องเที่ยวแบบเต็มวันซึ่งใช้เวลา 5 ชั่วโมงสำหรับการวิ่งเทรลและต่อท้ายด้วย 2 ชั่วโมงสำหรับการลองทำพิซซ่าหรือรับประทานบาร์บีคิว ค่าใช้จ่ายท่านละ 6,000 เยน ซึ่งรวมบริการรับส่งทั้งขาไปและขากลับจากที่พักของคุณ แผนที่บอกเส้นทาง และค่ามื้ออาหารที่เกสต์เฮ้าส์ซันซุยแล้ว
เกี่ยวกับผู้เขียน:
ผมหลงใหลการท่องเที่ยวและการออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ มาโดยตลอด ผมได้ย้ายมาที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2015 และผมยังได้ออกไปเยือนสถานที่ใหม่ ๆ
ลองทำสิ่งใหม่ ๆ และลองลิ้มลองรสชาติอาหารใหม่ ๆ อยู่ไม่ขาด ประเทศนี้มีอะไรที่ทำให้ผมประหลาดใจอยู่เสมอ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ได้เลือกสถานที่แห่งนี้มาเป็นบ้านของผม
ในจังหวัดมิเอะ คุณสามารถหาภูมิทัศน์ริมทะเลที่งดงามติดอันดับของญี่ปุ่นได้ การผสมผสานกันอย่างลงตัวของภูเขาและท้องทะเลในสถานที่เดียวกันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเล ผักผลไม้ซึ่งมาจากภายในท้องถิ่น และรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ อีกมากมาย
ทำให้จังหวัดนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นสำหรับการออกไปผจญภัย
สำหรับผมแล้ว วิธีการที่ดีที่สุดในการออกไปสัมผัสประสบการณ์และดื่มด่ำกับความงดงามตามธรรมชาติของสถานที่ต่าง ๆ คือการปั่นจักรยาน
ไม่ก็การสวมรองเท้าวิ่งแล้วเลือกเส้นทางที่จะออกไปชมทิวทัศน์
ดังนั้นเมื่อผมเห็นแพ็กเกจท่องเที่ยวที่มีทั้งการวิ่งบนเส้นทางริมทะเลของเมืองไทกิและต่อท้ายด้วยการทำพิซซ่าเตาอิฐที่เกสต์เฮ้าส์ซึ่งเป็นฟาร์มสเตย์แบบดั้งเดิม
ผมรู้เลยว่าผมจะต้องไม่พลาดทริปท่องเที่ยวนี้อย่างแน่นอน
เส้นทางริมทะเลเมืองไทกิมีเส้นทางย่อยอีกหลายเส้นให้คุณเลือก โดยในแพ็กเกจนี้ผมได้วิ่งไปบนเส้นทางยาว 23 กิโลเมตร
เวลาทั้งหมดที่ใช้สำหรับการวิ่งบนเส้นทางนี้อยู่ระหว่าง 4 ถึง 5 ชั่วโมง
ในคืนก่อนหน้าผมได้รีบเข้านอนเอาแรงที่เกสต์เฮ้าส์ของผมและตื่นเช้ามารับประทานอาหารมื้อเช้าแสนอร่อยเพื่อจะได้มีแรงสำหรับการวิ่ง
บริการรับส่งจากเกสต์เฮ้าส์ของผมไปยังจุดเริ่มต้นของการวิ่งเทรลนั้นได้รวมอยู่ในราคาของแพ็กเกจแล้ว ผมได้เตรียมน้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว
และเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนตอนวิ่งเสร็จไว้ในกระเป๋าเป้ของผมแล้ว การที่รู้ว่าเราจะมีทดลองทำพิซซ่าและจัดงานฉลองกันเล็ก ๆ
หลังจากวิ่งเสร็จก็ช่วยเพิ่มกำลังใจให้ผมได้มากโขเลยทีเดียว
ผมเริ่มออกวิ่งหลังจากผ่าน 9:00 มานิดหน่อยและมันก็ไม่ได้ใช้เวลานานเท่าไรในการหาจังหวะการวิ่งของตัวเอง
เส้นทางที่ผมวิ่งมีการเปลี่ยนแปลงของระดับความสูงหลากหลายระดับและนำผมไปสู่ทัศนียภาพทางธรรมชาติที่น่าทึ่งในรูปแบบต่าง ๆ
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการถึงโลกที่ไม่มีเทคโนโลยีและไม่มีความต้องการในชีวิตประจำวัน
มันสุดยอดมากเมื่อเส้นทางได้พาผมโผล่ออกมายังพื้นที่โล่งและมีทะเลอยู่ตรงเบื้องหน้า ลมทะเลแสนสดชื่นและทิวทัศน์สุดตระการตาของภูเขา ทะเล
และบรรดานกทะเลช่วยให้ผมสามารถรักษาความเร็วในการวิ่งของผมต่อไปได้
แม้ว่าเมืองไทกิอาจจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มันก็เป็นบ้านของธรรมชาติอันงดงามหลากหลายรูปแบบ
กล่าวกันว่าแม่น้ำมิยางาวะอันเก่าแก่ซึ่งไหลผ่านตัวเมืองนี้ได้รับการยกย่องว่ามีน้ำใสสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
บริเวณริมแม่น้ำก็จะมีดอกสึสึจิบานสะพรั่งอยู่เต็มพื้นที่เลย
ในบางช่วงของเส้นทาง ผมพบว่ารากไม้ที่พันกันยุ่งเหยิงในป่าเก่าแก่และลำต้นที่มีลักษณะเป็นปุ่มนูนของต้นไม้ก็ได้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นกำแพงธรรมชาติ
ในเส้นทางอีกช่วงหนึ่งผมก็กำลังวิ่งที่ระดับน้ำทะเลโดยมีน้ำทะเลอยู่ห่างจากเส้นทางวิ่งเพียงแค่ไม่กี่เมตร เนื่องจากเส้นทางนี้มีทั้งขึ้นและลงสลับกันไป
ผมจึงได้รับรางวัลเป็นทิวทัศน์ของภูเขา ป่าไม้ และทะเลในมุมมองที่แตกต่างกันไป สิ่งนี้ทำให้เมืองไทกิกลายเป็นปลายทางในฝันของทุกคนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
แต่ก็รู้สึกโล่งสบายและพร้อมสำหรับมื้อเที่ยงแล้ว เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ผมจะกลับมาวิ่งอีกครั้งในอนาคตอย่างแน่นอน หลังจากนั่งรถมาสักพัก
เราก็มาถึงเกสต์เฮ้าส์ซันซุยซึ่งเราจะมาทำพิซซ่าเตาอิฐตามคำแนะนำจากคุณผู้หญิงเจ้าของบ้าน
เธอและสามีของเธอสร้างเกสต์เฮ้าส์นี้ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันช่างตรงกับสถานที่ซึ่งผมอยากจะเข้าพักในระหว่างเดินทางท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ภายในเกสต์เฮ้าส์ถูกตกแต่งด้วยสิ่งของมากมายที่สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความชื่นชอบของเธอ เห็นได้ชัดว่าฮามะ-ซังชื่นชอบสิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวกับอิตาลี
และผมก็เดาว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงสร้างเตาอิฐไว้ในสนามหญ้าซึ่งเราจะนำมาใช้อบพิซซ่าในช่วงบ่ายของวันนั้น
ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นซึ่งมีความโปร่งสบายและเริ่มลงมือทำมื้อเที่ยงที่ทุกคนรอคอยกัน ฮามะ-ซังได้เตรียมแป้งโดว์มาให้เราแล้ว
รวมถึงเตรียมวัตถุดิบสำหรับท๊อปปิ้งหลายชนิดเตรียมไว้ให้เราจัดแต่งหน้าของพิซซ่าได้ตามใจชอบ ผมแทบจะอดใจเริ่มลงมือทำพิซซ่าไม่ไหวแล้ว
วัตถุดิบสำหรับท๊อปปิ้งบางชนิดผลิตมาจากภายในท้องถิ่น โดยเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ปลาชิราซุ (ลูกปลาซาร์ดีนที่นำไปต้มและตากแห้งแล้ว)
ผักใบเขียวจากฟาร์มเกษตรในท้องถิ่น และซอสพิซซ่าซึ่งฮามะ-ซังเป็นคนทำขึ้นเอง
เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ยังมีต้นโหระพาฝรั่งต้นใหญ่วางไว้ในห้องนั่งเล่นซึ่งเราสามารถเด็ดใบมาใส่เพื่อเพิ่มรสชาติสดชื่นให้พิซซ่าของเราได้ด้วย
แต่ผมก็เป็นคนแรกที่แสดงให้เห็นว่าความพยายามครั้งแรกของผมนั้นไม่ได้ดูสวยงามสักเท่าไร เช่นเดียวกับอาหารส่วนใหญ่
ถึงแม้หน้าตาพิซซ่าของผมอาจจะดูไม่ค่อยสวยงาม แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อรสชาติแสนอร่อยของมันเลย
วัตถุดิบในวันนั้นยังมีชีสกอร์กอนโซล่าซึ่งไม่ใช่ของที่คุณจะพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ในฐานะที่ผมเป็นแฟนตัวยงของชีส
ผมอดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะลิ้มลองรสชาติสุดเข้มข้นนี้จากพิซซ่าของผม
ซังและสามีของเธอได้สร้างพื้นที่สำหรับทำอาหารกลางแจ้งไว้ภายในสวนของเกสต์เฮ้าส์ด้วย