ใช้ชีวิตพื้นบ้านแบบญี่ปุ่นและสัมผัสประสบการณ์ทำฟาร์มเกษตร ใช้ชีวิตทำฟาร์มเกษตรแบบพื้นบ้านและเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารสดใหม่ของมิเอะ

ใช้ชีวิตพื้นบ้านแบบญี่ปุ่นและสัมผัสประสบการณ์ทำฟาร์มเกษตร ใช้ชีวิตทำฟาร์มเกษตรแบบพื้นบ้านและเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารสดใหม่ของมิเอะ

เมืองไทกิมีเกสต์เฮ้าส์ที่ใช้ต้อนรับผู้มาเยือนประมาณ 20
แห่งซึ่งจะนำเสนอประสบการณ์พื้นบ้านหลากหลายอย่างให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งแบบบุคคลและแบบครอบครัว ทริป
“ใช้ชีวิตพื้นบ้านแบบญี่ปุ่นและสัมผัสประสบการณ์ทำฟาร์มเกษตร” ได้รวบรวมกับกิจกรรมต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันโดยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล อาทิ การเก็บเกี่ยวพืชผัก การสวมชุดกิโมโน การเตรียมอาหารทะเลเป็นมื้อค่ำ การพาไปเยี่ยมชมตลาดปลาและอีกมากมาย
ผู้ร่วมทริปจะเช็คอินที่เกสต์เฮ้าส์เวลาประมาณ 15:00 และเช็คเอาท์เวลา 10:00 ของเช้าวันถัดไป มีค่าใช้จ่ายท่านละ 10,000 เยน โดยรวมอาหารมื้อค่ำ อาหารเช้า และบริการรับส่งจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดทั้งขาไปและขากลับแล้ว
การสัมผัสประสบการณ์ของทริปนี้เป็นแนวทางที่ใช้เพื่อเข้ามาสัมผัสกับความเอาใจใส่ ความงดงามทางธรรมชาติ
และอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อยของเมืองไทกิในจังหวัดมิเอะได้อย่างเต็มที่

บทความโดย เวิร์น เบ็กก์
เกี่ยวกับผู้เขียน:
การลิ้มลองรสชาติอาหารสดใหม่จากท้องถิ่นถือเป็นหนึ่งในส่วนที่ผมชื่นชอบของการท่องเที่ยวเสมอมา
ผมรู้สึกหลงรักอาหารญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนที่ผมย้ายมาที่ประเทศญี่ปุ่นเลย จากนั้นผมก็พบว่าตนเองรู้จักอาหารของประเทศนี้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นเอง
เมื่อไรก็ตามที่ผมมีโอกาสได้ไปบริเวณต่าง ๆ ของญี่ปุ่น สิ่งที่ต้องมีอยู่ในรายการของผมตลอดก็คือการลิ้มลองรสชาติของอาหารใหม่ ๆ

เมื่อผมตัดสินใจเข้าพักที่เกสต์เฮ้าส์แบบพื้นบ้านในเมืองไทกิผมก็ทราบเลยว่านี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้ลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ
และได้รับประทานอาหารรสชาติอร่อย เนื่องจากผมเองเติบโตขึ้นในฟาร์มเกษตรของแคนาดาผมจึงรู้สึกกระตือรือร้นอยากจะเรียนรู้การใช้ชีวิตในฟาร์มเกษตรพื้นบ้านของญี่ปุ่นบ้างช่วงเวลาที่มินชูกุ โมกูโมกูยะไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย มันถือเป็นโอกาสสุดพิเศษในการได้ลองทำกิจกรรมต่างๆ เป็นครั้งแรกและได้ลองรับประทานอาหารท้องถิ่นด้วย

คำบรรยายภาพ: บริเวณด้านหลังของเกสต์เฮ้าส์ซึ่งมองเข้ามาจากริมฝั่งแม่น้ำ

โอกูระ-ซังผู้เป็นเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ขับรถมารับผมที่สถานีรถไฟท้องถิ่น จากนั้นเราก็นั่งรถเพื่อกลับไปยังเกสต์เฮ้าส์
ในขณะที่เรากำลังเข้าใกล้ที่พักสำหรับคืนนี้ ถนนที่คดเคี้ยวก็ค่อย ๆ แคบลงเพราะเรากำลังเข้าสู่เขตชนบท
เมื่อเราไปถึงเกสต์เฮ้าส์ก็พบกับคุณเซ็ตสึโกะผู้เป็นภรรยาของโอกูระ-ซังซึ่งออกมาต้อนรับผมอย่างอบอุ่น

คำบรรยายภาพ: ครอบครัวโอกูระเป็นเจ้าบ้านที่เป็นมิตรและให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

พวกเขาให้ผมพักผ่อนสักครู่แล้วพาผมออกไปเดินดูรอบ ๆ ฟาร์มเกษตร เมื่อไปเดินดูบริเวณรอบบ้าน
ผมก็รู้เลยว่าจะได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในการใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่นของที่นี่อย่างแน่นอน ผมเพิ่งทราบว่าโอกูระ-ซังเคยเป็นช่างไม้ฝีมือดีมาก่อน เขาได้สร้างโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ทั้งในและนอกบ้านหลายชิ้นด้วยสองมือของเขา

คำบรรยายภาพ: ห้องครัวและโต๊ะม้านั่งซึ่งโอกูระ-ซังเป็นคนสร้างขึ้น

คำบรรยายภาพ: หนึ่งในห้องปูเสื่อทาตามิแบบดั้งเดิมภายในเกสต์เฮ้าส์ ภายในห้องเต็มไปด้วยสิ่งของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ที่บริเวณสวนนอกบ้าน ครอบครัวโอกูระมีแปลงผักขนาดใหญ่ซึ่งปลูกผักสดสำหรับใช้ทำอาหารในเกสต์เฮ้าส์ เมื่อผมเห็นต้นกระเจี๊ยบเขียวและต้นมะระ (โกยะ ในภาษาญี่ปุ่น) ผมคิดว่าตนเองก็น่าจะได้รับประทานในระหว่างการเข้าพักอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขายังมีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับใช้เพาะเห็ดด้วย
แต่บังเอิญว่าช่วงเวลาที่ผมไปเข้าพักไม่ใช่ฤดูกาลของเห็ด

คำบรรยายภาพ: ต้นกระเจี๊ยบเขียวในสวนเป็นต้นใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

ด้านหลังของเกสต์เฮ้าส์เป็นแม่น้ำซึ่งไหลมาจากฐานของภูเขา น้ำในแม่น้ำดูใสแจ๋วทีเดียว ผมได้ยินว่าในแม่น้ำมีปลาและสัตว์ต่าง ๆ
อีกมากมายซึ่งช่วยให้บรรดาแขกที่เข้าพักรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการเข้าพักได้ ผมเฝ้ารอโอกาสที่จะได้รับประทานปลาสด บางทีอาจมีอะไรใหม่ ๆ ให้ผมลองรับประทานเป็นครั้งแรกก็ได้

คำบรรยายภาพ: แม่น้ำอยู่ห่างจากตัวบ้านไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ประสบการณ์แรกที่ผมได้ลองทำในการใช้ชีวิตทำฟาร์มเกษตรพื้นบ้านแบบญี่ปุ่นคือการไปตกปลาด้วยเบ็ดตกปลาแบบธรรมดาที่สระน้ำเล็ก ๆ ข้างบ้าน โอกูระ-ซังเลี้ยงปลาอายุ ปูขน และสัตว์อื่น ๆ ในสระน้ำแห่งนี้ เราโปรยเศษเนื้อกุ้งลงในสระน้ำเพื่อล่อให้พวกปลาเข้ามาติดเบ็ด
มีปลาว่ายเข้ามาแทะเหยื่อบ้างเล็กน้อย แต่วันนี้โชคของเรายังไม่ดีพอที่จะตกปลาได้ โอกูระ-
ซังปลอบใจผมว่ายังมีโอกาสได้ลองรับประทานปลาอายุเป็นอาหารมื้อค่ำอยู่นะ

คำบรรยายภาพ: เราพยายามจะตกปลา แต่พวกปลาก็ไม่ยอมเข้ามาติดเบ็ดของเราในวันนั้น

หลังจากตกปลา ผมกระโดดขึ้นรถบรรทุกพร้อมกับโอกูระ-ซัง
เราก็ขับรถไปตามถนนเพื่อออกไปเติมน้ำพุร้อนสดใหม่จากภูเขาสำหรับนำมาใช้ทำอาหารมื้อค่ำ หลังจากนั่งรถไปไม่นาน
เราแวะจอดรถที่ข้างถนนและผมก็มองเห็นท่อน้ำอยู่ข้างศาลเจ้าเล็ก ๆ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถแวะมาเคารพสักการะได้ เราเติมน้ำไป 2
เหยือกสำหรับใช้หุงข้าวและใช้ต้มอาหารทะเล เมื่อเติมน้ำเสร็จ เราก็เดินทางกลับไปยังเกสต์เฮ้าส์

คำบรรยายภาพ: โอกูระ-ซังกำลังเติมน้ำพุร้อนจากภูเขาเพื่อนำมาใช้หุงข้าว

เมื่อเราเริ่มเตรียมของสำหรับใช้ทำอาหารมื้อค่ำ ผมได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารและได้รับมอบหมายบางหน้าที่ด้วย หลังจากโอกูระ-
ซังใช้คบไฟเพื่อจุดไฟให้เตาไฟแบบโบราณ เขายื่นขวานด้ามเล็กให้ผมและสอนวิธีการผ่าท่อนไม้สนญี่ปุ่นอย่างถูกต้องและปลอดภัยเพื่อนำมาทำเป็นฟืน ไม่นานเท่าไรเตาไฟก็ร้อนได้ที่ กลิ่นหอมของไม้สนที่กำลังเผาไหม้ลอยไปทั่วบริเวณ
หม้อใบใหญ่ซึ่งภายในมีข้าวสารและน้ำพุร้อนถูกนำไปวางไว้บนเตาและเราก็เริ่มต้นหุงข้าวกันเลย

คำบรรยายภาพ: ใช้คบไฟเพื่อเร่งการเผาไหม้ของฟืนจากไม้สนในเตาไฟแบบโบราณ

อาหารจานแรกที่เราเตรียมคือปลาอายุย่างเกลือซึ่งเราจะนำปลาไปย่างบนเตาถ่าน เราเสียบไม้เข้าไปในปากและลำตัวของปลาที่ล้างมาจนสะอาดแล้ว จากนั้นก็นำปลาเหล่านี้ไปยังพื้นที่สำหรับทำอาหาร/รับประทานอาหารซึ่งมีหลังคาเชื่อมต่อกับตัวบ้าน
ตรงนั้นมีโต๊ะซึ่งทำเป็นหลุมตรงกลางสำหรับย่างบาร์บีคิวพร้อมขาตั้งไม้ไผ่เพื่อใช้ยึดปลาเสียบไม้ค้างไว้ขณะย่างบนเตาถ่าน
ด้วยวิธีนี้เราจึงสามารถย่างปลาได้โดยไม่ต้องรีบร้อนพร้อมกับเตรียมอาหารจานอื่น ๆ ได้ด้วย

คำบรรยายภาพ:ผมช่วยเสียบไม้กับปลาอายุเพื่อเตรียมนำไปย่าง

เราใช้เวลาย่างปลาประมาณ 20 นาทีและเราสามารถปล่อยมันทิ้งไว้บนเตาถ่านในระหว่างที่เรากำลังเตรียมอาหารจานอื่นได้
เมื่อถึงเวลาเราก็พักชั่วคราวและมาลิ้มลองรสชาติของปลาย่างเกลือกัน เช่นเดียวกับมื้อบาร์บีคิวส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น
เรารับประทานของแต่ละอย่างที่เราทำเสร็จแล้วและไปเตรียมอาหารต่อจนกว่าของถัดไปจะพร้อมรับประทาน
ผมได้เคยลองรับประทานปลาอายุในอาหารแบบอื่น แต่การนำไปหมักเกลือแล้วย่างแบบง่าย ๆ นี่แหละคือยอดเยี่ยมที่สุด
คุณสามารถรับประทานปลาได้ทั้งตัวยกเว้นส่วนหัวและครีบโดยไม่ต้องกังวลเรื่องก้างปลาเลย

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้