วร์เดินชมโอสะซึโจ : บ้านของนักดำน้ำอามะ

ก่อนที่เราจะไปโอสะซึโจ เรามาพูดถึงนักดำน้ำอามะกันก่อนดีกว่า นักดำน้ำอามะ คือนักดำน้ำอิสระเพศหญิงที่อยู่รอบทุ่นอามะ และเก็บสิ่งต่างๆ จากทะเล เช่น สาหร่าย หอย และกุ้งอิเสะเอบิ ประเพณีนี้มีมาตั้งแต่ต้นปี 750 และประเพณีนักดำน้ำอามะถือเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

นักดำน้ำอามะจะดำเนินการโดยมีผู้หญิงเป็นหลัก เพราะพวกเขาเชื่อว่าผู้หญิงสามารถทนต่อน้ำเย็นได้มากกว่าเนื่องจากมีชั้นไขมันที่หนากว่า นักดำน้ำอามะจะดำน้ำได้ลึกถึง 30 ฟุตเพื่อเก็บอาหารทะเลและในบางครั้งก็สามารถกลั้นหายใจนานถึง 2 นาทีเลยทีเดียว!

แม้ว่าจำนวนนักดำน้ำอามะจะลดลง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับอนุญาตให้เป็นนักดำน้ำอามะ มีเฉพาะผู้ที่เกิดในครอบครัวเท่านั้นที่สามารถมีส่วนร่วมในประเพณีนี้ และนักดำน้ำอามะก็จะยังคงดำน้ำต่อไป แม้กระทั่งถึงอายุ 90!

แม้นักดำน้ำอามะหญิงจะมีอายุยืนยาว แต่ประเพณีนี้กำลังใกล้สูญหายไปอย่างช้าๆ เนื่องจากภาวะโลกร้อน การตกปลามากเกินไป และปัจจัยอีกหลายประการ ระบบนิเวศของมหาสมุทรได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และนักดำน้ำอามะก็ไม่มีอิสระที่จะดำน้ำอีกแล้ว

มีกฎและข้อบังคับที่รัฐบาลท้องถิ่นกำหนดไว้เกี่ยวกับเวลา ความถี่ และสิ่งที่สามารถเก็บได้ในขณะที่อามะทำการดำน้ำ

จุดแวะพักแรกของเราในโอสะซึโจคือ "โรงแรมโซระโนะคาเสะ (Sora no Kaze)" ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ไม่กี่แห่งที่ให้บริการทัวร์รอบบริเวณนี้ ที่นี่ เราได้พบกับไกด์ของเรา คุณโนมุระ ซึ่งมาพร้อมกับไม้ค้ำจำนวนหนึ่ง

ดูเหมือนว่าเราจะทำทัวร์การเดินแบบนอร์ดิกของโอสะซึโจ

หากคุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการเดินแบบนอร์ดิก มันคือการเดินประเภทหนึ่งที่มีการใช้ไม้ค้ำแบบพิเศษ ไม้ค้ำเหล่านี้มีลักษณะคล้ายไม้ค้ำสกี แต่ออกแบบมาเพื่อกระจายความตึงเครียดทั่วร่างกายจากการเดิน

การเดินแบบนอร์ดิกสามารถทำได้ทั้งแบบกีฬาหรือใช้เพื่อทำให้การเดินในทุกวันง่ายขึ้น โดยขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้ไม้ค้ำ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆ

คุณโนมุระได้ให้คำแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีการใช้เพื่อช่วยให้เดินได้ตามปกติ หลังจากฝึกฝนเพียงไม่กี่นาที เราก็เป็นนักเดินแบบนอร์ดิกที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเต็มที่ และถึงเวลาเริ่มทัวร์กันแล้ว!

คอร์สการเดินแบบนอร์ดิกมี 3 ระดับ : ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับสูง

คอร์สระดับเริ่มต้นมีความยาว 4 กม. และใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที คอร์สนี้เป็นเส้นทาง "นักท่องเที่ยว" ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาที่โอสะซึโจและต้องการเห็นจุดสำคัญๆ เช่น ชายหาด กระท่อมอามะ และศาลเจ้าชินเมอิ

คอร์สระดับกลางมีความยาว 7 กม. และใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง คอร์สนี้เป็นเส้นทาง "นักท่องเที่ยวบวกเพิ่ม" ครอบคลุมสถานที่เดียวกันกับคอร์สเริ่มต้น แต่มีการเพิ่มสถานที่เพิ่มเติมเพื่อให้การทัวร์โอสะซึโจสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สุดท้าย คอร์สระดับสูงมีความยาว 9 กม. และใช้เวลาประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง คอร์สนี้เป็นเส้นทาง "กีฬา" และจะได้เดินทางเต็มที่รอบโอสะซึโจ ไปทั่วทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้าน

เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกของเรา เราจึงตัดสินใจไปคอร์สเริ่มต้น

ทัวร์เดินชมของเราเริ่มต้นที่หาดชิราฮามะ ซึ่งเป็นชายหาดหลักของพื้นที่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนอีกด้วยวันนั้นท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆแต่วิวก็ยังดีและอากาศก็สดชื่น

เส้นทางเดินที่เต็มไปด้วยทรายนำเราไปสู่คาบสมุทรเล็กๆ ที่ซึ่งนำทางไปสู่พื้นที่ป่าขนาดเล็ก เราปีนขึ้นไปบนทางลาดที่เต็มไปด้วยดินและฝุ่น และก่อนที่เราจะรู้ตัวเราก็ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เต็มไปหมด และคุณแทบจะมองไม่เห็นมหาสมุทรแล้ว

ในชั่วพริบตา ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนจากชายฝั่งทะเลเป็นภูเขา และกลับเป็นชายฝั่งทะเลอีกครั้งเมื่อเราไปถึงอีกด้านหนึ่งของคาบสมุทร จากที่นี่ เราได้เห็นทิวทัศน์ของโอสะซึโจอย่างเต็มรูปแบบจากชายทะเล และไกด์ของเราชี้ให้เห็นกระท่อมอามะที่อยู่ไกลๆที่ซึ่งเรากำลังจะมุ่งหน้าไป

เราเดินเข้ามาใกล้ตัวเมืองและมาถึงท่าเรือประมงหลักของโอสะซึโจ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานสำหรับทั้งชาวประมงและนักดำน้ำอามะ เราเดินไปที่กระท่อมอามะ และที่นั่นมีนักดำน้ำอามะหลายคนกำลังตะโกนใส่กันหรือวิ่งไปรอบๆ อย่างเมามัน

ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันทำความสะอาดประจำฤดูใบไม้ผลิ

นักดำน้ำอามะส่วนใหญ่มีอายุมาก แต่พวกเขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทุกคนก็ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี เราได้แอบดูภายในกระท่อมเล็กๆ นั้น และพบว่าคุณสามารถเห็นอุปกรณ์ต่างๆที่พวกเขาใช้และได้เห็นชีวิตประจำวันของพวกเขาด้วย

นักดำน้ำบางคนดูเหมือนจะรู้จักคุณโนมุระ และจากวิธีที่พวกเขาพูดคุยกัน ผมมองเห็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นซึ่งมีอยู่ในโอสะซึโจ

เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นชีวิตประจำวันของนักดำน้ำอามะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ไม่ได้ดำน้ำ พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อบำรุงรักษาและดูแลทั้งที่พักและอุปกรณ์ของพวกเขา

ตลอดเวลานั้น คุณโนมุระเป็นไกด์ที่ยอดเยี่ยมมาก เขาเป็นคนคุยง่ายมากๆ และพยายามอธิบายเกี่ยวกับสถานที่ วัฒนธรรม และความงามของแต่ละแห่ง คุณสามารถบอกได้เลยว่าเขารักบ้านเกิดของเขามาก และต้องการแบ่งปันสิ่งที่มีอยู่ให้

คุณสามารถหาอะไรทานไปพร้อมกับฟังเรื่องราวของอามะหญิงได้ด้วย

จากกระท่อมอามะ เราได้เดินทางไปยังส่วนที่โด่งดังที่สุดของโอสะซึโจ นั่นคือศาลเจ้าชินเมอิ

ศาลเจ้านี้บูชาเทพเจ้าอิชิงามิ และว่ากันว่าการอธิษฐานขอพรที่นี่ “ความปรารถนาของผู้หญิงคนหนึ่งก็จะถูกเติมเต็ม” ดังนั้นนักดำน้ำอามะจึงมักจะมาขอพรที่ศาลเจ้าก่อนที่จะออกทะเล

ทุกวันนี้ศาลเจ้านี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักดำน้ำอามะหรือไม่ก็ตาม

ศาลเจ้าชินเมอิเป็นจุดสุดท้ายของทัวร์ แล้วเราก็เดินทางกลับไปที่โรงแรมโซระโนะคาเสะ

โดยรวมแล้ว ประสบการณ์การเดินแบบนอร์ดิกครั้งแรกของผมนั้นยอดเยี่ยมมาก! ตามที่ผมได้คาดคิดไว้ 4 กม. ที่เราได้เดินนั้นรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรอยู่บนขาของผมเลย แต่กลับรู้สึกว่าร่างกายส่วนบนของผมได้ผ่านการออกกำลังกายมา แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้การเดินระยะทางไกลเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่ได้ออกกำลังกายโดยรวมอย่างสมดุล

ครั้งหน้าผมจะไปคอร์สระดับกลาง 6 กม. อย่างแน่นอน!

เนื่องจากเราอยู่ริมชายฝั่ง เราจึงขับรถออกไปที่หมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อซื้ออาหารทะเลสำหรับมื้อกลางวัน มีสถานที่ในท้องถิ่นชื่อ นิชิมูระ โชคุโด (Nishimura Shokudo) ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีชื่อเสียงมากและดึงดูดลูกค้าจากทั่วมิเอะ

เคล็ดลับของความนิยมคือปริมาณและความสด!

เราขับรถไปที่ลานจอดรถถัดจากร้านอาหารท้องถิ่นที่ดูแสนจะธรรมดา ภายในมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ประมาณ 7 ที่นั่งและโต๊ะ 3 โต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้คน

เราเดินผ่านทางเดินแคบๆ ระหว่างโต๊ะกับที่นั่งเคาน์เตอร์เพื่อไปยังโต๊ะสุดท้ายที่ว่างอยู่อีกด้านของทางเข้า

ผมเปิดเมนูดูและเห็นว่ามีเมนูเพียง 5 หรือ 6 รายการเท่านั้น ผมสังเกตเห็นว่านี่เป็นรูปแบบทั่วไปในญี่ปุ่น ที่ร้านอาหารจะมีตัวเลือกเพียงไม่กี่อย่าง แต่พวกเขาทำออกมาได้ดีเป็นพิเศษ

น่าแปลกที่อาหารเรียกน้ำย่อยถูกนำออกมาเสิร์ฟมากขึ้นเรื่อยๆนอกเหนือจากรายการที่ผมสั่งไป!

สิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อเลยคือราคา

6 รายการในเมนูมีตั้งแต่ราคาถูกที่สุดคือ 3,000 เยน และรายการที่แพงที่สุดที่ 18,000 เยน ผมต้องตรวจสอบถึงสามครั้งว่าอ่านเมนูได้ถูกต้อง นี่คือราคาที่คุณเห็นในร้านอาหารวากิวระดับไฮเอนด์ ผมสงสัยจริงๆ ว่าเมนู 18,000 เยนนั้นเป็นเมนูอะไร แต่สุดท้ายผมก็สั่งจานที่ราคา 3,000 เยน

ผมสั่งชุดปลาทอด หนึ่งในเมนูราคา 3,000 เยน นอกจากอาหารจานหลักแล้ว ยังมีซาซิมิสด ปลากับผักดอง และข้าวหนึ่งชาม

จานนี้ดูธรรมดาทั้งของจริงและในรูป ส่วนซาซิมินั้นก็ดูดี

ผมกัดปลาสีกุนทอดกรอบแล้วความประทับใจของผมก็เปลี่ยนไปทันที ปลาข้างในนั้นฉ่ำมากและไม่มีกลิ่นคาวเลย แม้จะทอดมาแต่ก็ไม่เลี่ยน! เป็นปลาทอดที่ดีที่สุดที่ผมเคยกินมาเลย

มื้อนี้อิ่มกว่าที่คิด เมื่อผมทานอาหารเสร็จ ผมรู้สึกอิ่มมากจนไม่สามารถกินอะไรได้อีก ตอนที่เรากำลังจะเดินออกจากร้าน ผมเหลือบดูออเดอร์ของโต๊ะอื่น ที่ตรงกลางเป็นเรือไม้ที่บรรจุซาซิมิชิ้นหนาไว้

นั่นน่าจะเป็นจานที่ราคา 18,000 เยน