ทัวร์หมู่เกาะโทบา

สิ่งแรกในแผนการเดินทางโทบะของเราคือการเดินทัวร์หนึ่งใน 4 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ซึ่งก็คือเกาะโทชิจิมะ เราพบกับไกด์นำเที่ยวเกาะของเราจากไคโตะ ยูมิน คลับ (Kaito Yumin Club) ที่สถานีโทบะ แล้วเดินทางไปที่ท่าเรือโทบะมารีนเทอร์มินอลเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่

ระหว่างทางเราเที่ยวชมรอบๆโทบะและแวะที่โทบะมาร์เช่ (Toba Marche) ซึ่งเป็นตลาดอาหารทะเลหลักในพื้นที่ ที่โทบะมาร์เช่ พวกเขาขายอาหารทะเลหลากหลายชนิด ตั้งแต่ปลาดิบไปจนถึงของฝากที่บรรจุกล่อง ทั้งหมดนี้ในราคาที่ไม่แพงอีกด้วย! ไกด์นำเที่ยวของเราอาศัยอยู่ที่โทชิจิมะและเธอบอกว่านี่คือที่ที่เธอช็อปปิ้งระหว่างทางกลับบ้านจากที่ทำงาน

เรามาถึงท่าเรือโทบะจุดเชื่อมต่อไปยังหมู่เกาะโทบะ ที่นี่คุณสามารถนั่งเรือไปยังเกาะที่อยู่อาศัยทั้ง 4 เกาะและเกาะอื่นๆ โดยรอบได้ เมื่อเราซื้อตั๋ว ผมสังเกตเห็นเรือลำหนึ่งที่ตกแต่งเยอะมากและมีรูปปั้นขนาดใหญ่ยืนอยู่บนดาดฟ้าชั้นบน

ต่อมาผมพบว่านี่คือเรือริวกุโจเฟอร์รี่ (Ryugu Jo Ferry) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยายญี่ปุ่น

น่าเสียดาย นี่ไม่ใช่เรือเฟอร์รี่ที่เราจะนั่งไปยังโทชิจิมะ

มีเกาะหลักอยู่ 4 เกาะนอกชายฝั่งโทบะ ได้แก่ ซากาเทะจิมะ (Sakatejima) ซูกะชิมะ (Sugashima) คามิชิมะ (Kamishima) และโทชิจิมะ (Toshijima) จากทั้งหมดนี้ โทชิจิมะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมีประชากรประมาณ 2,000 คน

การเดินทางไปยังโทชิจิมะใช้เวลาสั้นๆ เพียง 20 นาที และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือโทบุ ทางด้านใต้ของภูมิภาคตะวันออก ทัวร์ของเราจะเริ่มที่นี่และมีแผนจะเดินไปยังโทชิ ที่ซึ่งเราจะนั่งเรือข้ามฟากกลับไปยังแผ่นดินใหญ่

โทชิจิมะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นเกาะอยู่อาศัยที่มีวิถีชีวิตของตัวเอง และจุดประสงค์ของการเดินทัวร์ครั้งนี้ก็คือเพื่อดูว่าการใช้ชีวิตที่นี่เป็นอย่างไร

ตอนแรก ผมไม่ทันสังเกตเห็นรายละเอียดที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสถานที่นี้ แต่เมื่อทัวร์ดำเนินไป ผมเริ่มสังเกตเห็นว่าชีวิตบนเกาะนี้แตกต่างกันอย่างไร

ชีวิตบนเกาะโทชิจิมะดูเหมือนจะวนเวียนอยู่กับการตกปลา

รอบๆ บริเวณท่าเรือโทบุ มีเรือประมงจอดเรียงรายอยู่ในท่าเรือ มีเครื่องมือจับปลาวางอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทุกคนที่เราพบดูเหมือนจะทำมาหากินในมหาสมุทรไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

อันที่จริงไกด์นำเที่ยวของเราบอกว่าบนเกาะมีปลามากมายจนไม่มีใครซื้อปลาเลยส่วนผักกับเนื้อสัตว์ต้องซื้อที่โทบะเพราะบนเกาะไม่มีซูเปอร์มาร์เก็ต

เนื่องจากการตกปลาเป็นส่วนใหญ่ของเกาะจึงมีสัญญาณเตือนทั่วทั้งเกาะซึ่งส่งเสียงเตือนทุกเช้าตอน 6 โมงเช้า แต่ตอนนั้นเกือบทุกคนก็ตื่นแล้วและเริ่มออกทะเล

จากนั้นเราก็ออกห่างจากชายฝั่งและผ่านเขตที่อยู่อาศัยบนแผ่นดิน เราผ่านโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและไกด์บอกเราว่าที่นี่เป็นโรงเรียนมัธยมเพียงแห่งเดียวบนเกาะ บนเกาะมีโรงเรียนประถมศึกษา 2 แห่ง โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นหนึ่งแห่ง แต่ไม่มีโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมัธยมที่ใกล้ที่สุดอยู่บนแผ่นดินใหญ่ และนักเรียนมัธยมปลายทุกคนเดินทางไปโรงเรียนโดยเรือข้ามฟาก

หลังจากผ่านโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นมเพียงแห่งเดียวบนเกาะไปแล้ว เราก็เจอที่ทำการไปรษณีย์ที่มีเพียงแห่งเดียว หน้าไปรษณีย์เป็นเวที และทุกเดือนกุมภาพันธ์ เมืองนี้จะจัดงานเทศกาลฮาจิมันประจำปีที่นี่

ในช่วงเทศกาล ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจะวิ่งขึ้นไปบนเนินเขาโดยถือธงสีขาวที่มีตัวอักษร “八” (ฮาจิ) อยู่บนนั้น พวกเขาจะทิ้งธงลงแล้วทุกคนที่เฝ้าดูอยู่ก็จะรวมตัวกันและต่อสู้เพื่อแย่งชิงธงนั้น

เทศกาลจะค่อนข้างรุนแรงจึงแนะนำให้ผู้หญิงและเด็กดูจากระยะไกล เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการตกปลาและเพื่อความปลอดภัยในท้องทะเลไปอีกหนึ่งปี

หลังจากเดินสำรวจมาชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงอีกท่าเรือหนึ่ง คือ โทชิ และก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว!

ไกด์ของเราพาเราไปพบกับร้านในท้องถิ่น "มารูโตะ โชคุโด (Maruto Shokudo)" และคุณอาจเดาได้ว่ามีจานปลาอยู่ในเมนูแน่นอน เรามีชุดอาหารปลาต้มซึ่งมาพร้อมกับข้าว ซุปมิโสะ และผักดอง

ทุกอย่างมีรสชาติที่สดใหม่มากๆ และผู้หญิงที่ทำงานที่ร้านบอกว่าปลาถูกจับได้เมื่อประมาณ 30 นาทีที่แล้ว ดังนั้นเราจึงมาในเวลาที่เพอร์เฟคเป็นอย่างมาก

ตามที่คาดหวังไว้จากโทชิจิมะ

หลังจากทานอาหารอุ่นๆกันเรียบร้อยแล้ว ทัวร์ก็สิ้นสุดลงและได้เวลาเดินทางกลับเกาะหลัก

เราวางแผนที่จะพายเรือคายัคหลังจบทัวร์โทชิจิมะ แต่ทันทีที่เราไปถึงโทบะ พายุฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่ก็มาถึงด้วยเหมือนกัน จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเลื่อนการพายเรือคายัคออกไปในวันถัดไป ดังนั้นเราจึงเช็คอินที่โรงแรมโทบะแกรนด์โฮเทล ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมบนชายฝั่งโทบะ

เราเก็บของเข้าที่และจับจองที่นั่งที่ล็อบบี้ซึ่งมีบาร์เครื่องดื่มและมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลของเกาะมิตสึชิมะที่ตั้งตระ

ห้องพักของเราเป็นห้องวะชิสึ (Washitsu) แบบญี่ปุ่นทั่วไปที่มีพื้นเสื่อทาทามิ ที่นอนฟูก และวิวมุมกว้างของฟาร์มหอยนางรมด้านนอก

หลังจากเช็คอินเข้าห้องพักเสร็จ ผมก็กลับมาที่ล็อบบี้เพื่อเพลิดเพลินกับบาร์เครื่องดื่มและชมวิวก่อนไปทานอาหารเย็น

อาหารเย็นที่โรงแรมโทบะแกรนด์โฮเทลเป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์และเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดที่ผมเคยทานมาในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว

โทบะขึ้นชื่อในเรื่องอาหารทะเล ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาการขาดแคลนซาซิมิและหอยนางรม นอกจากนี้ยังมีอาหารญี่ปุ่นทุกประเภท เช่น เทมปุระ อุด้ง และมินินาเบะ นอกจากนี้ยังมีพาสต้า ลาซานญ่า และสเต็กปรุงตามสั่งเพื่อรองรับอาหารตะวันตกอีกด้วย

เมื่อผมได้ลองชิมทุกอย่าง ท้องผมก็อิ่มแล้ว