สถานที่ที่ดีที่สุดในการเล่นเซิร์ฟในญี่ปุ่น
วันนี้เรามาสำรวจเมืองชายฝั่งชิมะกัน!
ชิมะเป็นคาบสมุทรทางตะวันออกสุดของมิเอะ และเป็นที่รู้จักจากความงามตามธรรมชาติที่ไม่มีใครแตะต้องและแนวชายฝั่งที่ไร้ขอบเขต ชิมะล้อมรอบด้วยแหล่งน้ำ 3 แห่ง และผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้สำรวจแต่ละพื้นที่
ผมจะเริ่มต้นวันใหม่นี้ด้วยการโต้คลื่นในมหาสมุทรแปซิฟิก จากนั้นขับรถขึ้นไปที่ปลายสุดของอ่าวมาโตยะ (Matoya) และปิดท้ายด้วยทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของอ่าวอาโกะ (Ago) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ในลิสต์ที่ผมใฝ่ฝันมานาน
ไปกันเลย!
สถานที่ที่ดีที่สุดในการเล่นเซิร์ฟในญี่ปุ่น
เราเริ่มต้นการผจญภัยในชิมะที่หาดโคชิระฮามะ (Koushirahama) หนึ่งในจุดเล่นกระดานโต้คลื่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากมีลมสงบ น้ำตื้น และคลื่นปานกลาง โคชิระฮามะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของชิมะ หันหน้าไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกและทอดยาวเป็นระยะทางหนึ่งกิโลเมตร
โคชิระฮามะยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนรู้การเล่กระดานโต้คลื่นด้วยเนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างจะเอื้ออำนวย ดังนั้นผมจึงค่อนข้างตื่นเต้นเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกของผมเลย
เรามุ่งหน้าไปที่ Surf Playa ร้านเซิร์ฟสไตล์แคลิฟอร์เนียเพื่อพบกับครูฝึกรูปลักษณ์ของอาคารนี้ทำให้ผมนึกถึงร้านค้าใกล้ชายหาดในแคลิฟอร์เนียที่นี่ เราฝากสิ่งของสวมชุดว่ายน้ำเว็ทสูทแล้วก็เดินไปที่ชายหาด
ระหว่างที่กำลังเดิน ผมถามครูฝึกว่าทำไมเขาถึงตั้งชื่อร้านว่า Surf Playa (แปลว่า Surf Beach ในภาษาสเปน) เขาบอกว่าเขามักจะไปเยี่ยมลูกชายของเขาที่เม็กซิโกซึ่งย้ายไปอยู่ที่นั่นเพื่อเล่นกระดานโต้คลื่นในเลเวลต่อไป (และเขาก็แค่ชื่นชอบเม็กซิโกเพียงเท่านั้น)
ตลอดการสนทนา ผมบอกได้เลยว่าเขามีความหลงใหลในการเล่นกระดานโต้คลื่นเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เราขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายไปยังชายหาด และนั่นคือ : ชายหาดโคชิระฮามะ
หาดทรายขาว อากาศอันเพอร์เฟค และผู้คนมากมายเล่นกระดานโต้คลื่นที่หาดพระจันทร์ครึ่งซีกอันกว้างขวางแห่งนี้ ทำให้นี่เป็นทิวทัศน์ที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย
มาโต้คลื่นกัน!
พวกเราวางกระดานโต้คลื่นลงเพื่อเริ่มยืดเส้นยืดสาย
ในขณะเดียวกัน ครูฝึกก็เริ่มอธิบายพื้นฐานของการเล่นกระดานโต้คลื่น : วิธีมองหาคลื่นที่ดี รูปร่างของคลื่น และสุดท้าย การขึ้นไปโต้คลื่น เราผ่านการลองเคลื่อนไหวบนพื้นทรายเพื่อฝึกฝนแล้วจากนั้นจึงลงสู่ผืนน้ำ
สำหรับคลื่นสองสามลูกแรก ผมถูกบอกให้ขึ้นไปอยู่บนคลื่นในขณะที่ยังคงนอนทรงตัวอยู่บนกระดาน นี่คือการเรียนรู้ที่จะคุ้นเคยกับจังหวะของคลื่นและความรู้สึกของการขึ้นไปอยู่บนคลื่น เป็นเรื่องง่ายที่จะโต้คลื่นด้วยความช่วยเหลือจากครูฝึก แต่เมื่อผมได้ลองด้วยตัวเอง จังหวะต่างๆ ค่อนข้างท้าทายมากทีเดียว
อากาศวันนี้สมบูรณ์แบบค่อนข้างจะเกินไปด้วยซ้ำ และคลื่นก็ไม่แรงมาก ผมจึงแยกแยะไม่ออกว่าคลื่นไหนแรงพอที่จะโต้ไปได้จนสุดทาง และคลื่นไหนจะดับลงกลางทางเสียก่อน
หลังจากลองได้สองสามครั้ง ในที่สุดครูฝึกก็อนุญาตให้ผมฝึกยืนขึ้นได้ ผมรู้สึกตื่นเต้นเพราะนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าการเล่นเซิร์ฟจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ระหว่างสองสามรอบแรกๆ ผมก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่
ตลอดเวลาที่ผ่านมาครูฝึกอธิบายถึงสิ่งที่ผมทำได้ดีและสิ่งที่ผมยังสามารถปรับปรุงได้ไว้ดีมาก คำติชมของเขาเป็นสิ่งที่ทำให้ผมก้าวหน้าและสนุกสนานในเวลาเดียวกัน
หลังจากทดลองสองสามรอบและรับคำแนะนำจากครูฝึก ในที่สุดผมก็สามารถยืนขึ้นและโต้คลื่นเข้าฝั่งได้อย่างสมบูรณ์
ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะประทับใจ!
ชายหาดโคโนะฮามะนั้นมีคลื่นลมสงบและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเสียจริง
อาหารพิเศษในท้องถิ่นของชิมะ
เราทุกคนรู้ว่ากีฬาทางน้ำช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มาก และผมก็กำลังหิวโหยเป็นอย่างมากแล้ว
หลังจากใช้เวลาทั้งเช้าที่ชายหาดแล้ว เราก็ตัดสินใจไปทานอาหารกลางวันที่ร้านในท้องถิ่นที่ชื่อว่า "คินเซอิ ราเมน" พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องทันตันเมนรสงา และคนในท้องถิ่นทุกคนที่เราพบก็แนะนำร้านนี้มาเหมือนกัน
ขอบชิมาซุ
หลังจากเล่นเซิร์ฟแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวชมเมืองกัน!
เราขับรถไปจนถึงปลายสุดทางตะวันออกเฉียงเหนือของชิมะเพื่อไปยังประภาคารอะโนริซากิซึ่งตั้งอยู่ตรงปากอ่าวมาโตยะ
เมื่อเรามาถึง มีสนามหญ้ากว้างๆและร้านกาแฟตั้งอยู่ใกล้ชายขอบหันหน้าไปทางอ่าว เราตัดสินใจไปที่ประภาคารก่อน จึงเดินต่อไปอีกฟากของสนามหญ้าและเดินเข้าไป
หลังจากเยี่ยมชมประภาคารแล้ว เราก็ไปพักที่ร้านกาแฟและเติมความสดชื่นด้วยของหวานแสนอร่อย คาเฟ่มีหน้าต่างที่เปิดกว้างและด้วยสภาพอากาศที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวได้ทุกที่ที่คุณมอง
ที่คาเฟ่อุเอดะโชเท็น (Uedashoten) มันฝรั่งอบแห้งแบบดั้งเดิม "Kinko potato - Gingko potato"
คุณสามารถเพลิดเพลินกับพาร์เฟ่ต์มันฝรั่ง" และ "พุดดิ้งมูสน้ำผึ้งมันฝรั่ง" พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ได้
"คาบูคุ รีสอร์ท"
ทิวทัศน์ของ 64 เกาะ
วันนี้ของผมในชิมะสิ้นสุดลงด้วยการแวะจุดสุดท้ายซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่โดดเด่นที่สุดของมิเอะ นั่นคือจุดชมวิวโยโกยามะ
เรามาถึงที่จอดรถ และต้องขึ้นบันไดเพิ่มอีก 15 นาทีก่อนที่จะถึงดาดฟ้าชมวิว หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน นี่จึงเป็นบันไดที่รู้สึกเหนื่อยยากมาก แต่เมื่อไปถึงยอด ก็รู้สึกคุ้มค่ามากทีเดียว
ทางขวามือของผมเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งดูเหมือนจะเป็นร้านกาแฟ เมื่อผมมองไปทางซ้าย ผมเห็นสถานที่เปิดโล่ง ระเบียงไม้โล่งกว้าง และผ่านระเบียงไปคือทิวทัศน์อันสวยงามโดดเด่นเหมือนที่ผมเห็นในรูปถ่าย
ถัดจากร้านกาแฟมีเส้นทางเดินป่าจริงๆ และผมตัดสินใจที่จะลองเดินดู ตลอดเส้นทางนี้มีจุดให้ชมวิวมากขึ้น คนไม่ค่อยพลุกพล่าน แต่ก็สวยงามมากพอๆกับการชมจากระเบียง
หลังจากถ่ายรูปอ่าวมามากมายผมค่อนข้างจะรู้สึกอิ่มเอมใจ
และวันนี้ก็จบลง