"สองวิวดอกบ๊วยสุดอลังการ" ในมิเอะ ที่แสนสวยและโรแมนติก

"สองวิวดอกบ๊วยสุดอลังการ" ในมิเอะ ที่แสนสวยและโรแมนติก

ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคเราจะรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงเมื่อดอกบ๊วยเริ่มผลิบาน ในมิเอะมีดอกบ๊วยสีชมพูสวยงามช่วยแต่งแต้มสีสันให้เชิงเทือกเขาซุซุกะ ใน"ป่าบ๊วยในสวนเกษตร เมืองอินาเบะ" ที่มีบ๊วย 4,000 ต้นจาก 100 สายพันธุ์บานสะพรั่ง คุณจะได้ชมป่าบ๊วยอันกว้างใหญ่ดูคล้ายกับพรมที่เอาผ้าหลากสีหลากลายมาเย็บปะติดปะต่อกัน และที่ "สวนป่าซุซุกะ" คุณจะได้ชมต้นบ๊วยพันธุ์กิ่งย้อยชื่อดังและงดงามราว 200 ต้น รวมทั้งไฟประดับอันสวยงามน่าอัศจรรย์อีกด้วย แล้วจะเลือกไปชมวิวดอกบ๊วยอันสวยงามที่ไหนดี

"ป่าบ๊วยในสวนเกษตร เมืองอินาเบะ" มีต้นบ๊วยหลากสีสันดุจผืนพรมอยู่เบื้องหน้าคุณ

"ป่าบ๊วยในสวนเกษตร เมืองอินาเบะ" มีต้นบ๊วยหลากสีสันดุจผืนพรมอยู่เบื้องหน้าคุณ
ขึ้นรถไฟสายคินเท็ตสึจากสถานีคุวานะ แล้วเปลี่ยนไปนั่งสายซังคิ โฮคุเซที่สถานีนิชิคุวานะแล้วไปลงสถานีอาเงคิ แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่ออีกประมาณ 20 นาทีไปยัง "สวนเกษตร เมืองอินาเบะ" ป่าบ๊วยที่ปลูกต้นบ๊วย 4,000 ต้นจาก 100 สายพันธุ์เป็นจุดที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ช่างภาพ ช่วงเช้าเป็นเวลาเหมาะที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ! จุดถ่ายภาพที่แนะนำคือทิวทัศน์จากจุดชมวิว เมื่อชมวิวป่าบ๊วยมาจากด้านบนก็จะเห็นต้นบ๊วยหลากสีสันแผ่กระจายราวผืนพรมอยู่เบื้องล่าง

ในต้นฤดูใบไม้ผลิป่าบ๊วยจะถูกระบายด้วยสีแดง สีขาว มีแนวเทือกเขาซุซุกะที่มีหิมะปกคลุมในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นฉากหลัง เต็มไปด้วยกลิ่นหอมละมุนจากบ๊วยคอยต้อนรับผู้มาเยือน

เดินเล่นในป่าบ๊วย ทอดน่องไปตามทางเดินพร้อมสัมผัสสายลมสดชื่นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ

ปลูกบ๊วยสำหรับทานเอาไว้ด้วยเพราะเป็นสวนเกษตร เป็นบริเวณที่มีเสน่ห์และมีคนน้อย

มีการจัด "เทศกาลบ๊วย ณ อินาเบะ" ขึ้นที่สวนป่าบ๊วยในเดือนมีนาคมเป็นประจำทุกปี มีอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ และสินค้าขึ้นชื่อของเมืองละแวกใกล้เคียงวางจำหน่าย

ช่วงดอกไม้บานและน่าชมคือช่วงต้นถึงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี กำหนดการจัดเทศกาลบ๊วยจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์การบานของดอกไม้
แนะนำให้ใช้รถเช่าหรือจองบริการรถแท็กซี่เอาไว้ล่วงหน้า

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

>สวนเกษตร เมืองอินาเบะ

ไป "สวนป่าซุซุกะ" ที่มีไฟประดับสวยงามสุดอลังการกันเถอะ

ไป "สวนป่าซุซุกะ" ที่มีไฟประดับสวยงามสุดอลังการกันเถอะ
นั่งรถไฟสายยูโนะยามะไปลงที่สถานีโคโมโนะ แล้วนั่งรถแท็กซี่อีกประมาณ 17 นาทีเพื่อไปยัง "สวนป่าซุซุกะ" ที่เป็น "สวนเพาะปลูกเพื่อการวิจัย" ที่ครบครันไปด้วยต้นไม้ชื่อดังซึ่งได้รับการดูแลโดยช่างที่เรียกกันว่ายอดฝีมือ มีบ๊วยหลายสายพันธุ์จึงมาชมดอกไม้ได้เป็นระยะเวลานาน มีทั้งพันธุ์บานเร็ว พันธุ์บานช้า มีมุมที่เหมาะกับการเก็บภาพหลายจุด เช่น บ๊วยพันธุ์กิ่งย้อยที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง เนินวิวสวย กลีบดอกไม้อันสวยงามที่ตกอยู่บนพื้น ฯลฯ จึงมีคนที่ตั้งใจมาถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก

ทันทีที่เข้าไปคุณจะได้พบกับ "เท็งโนะริว" พันธุ์คุเรฮะชิดาเระซึ่งกล่าวกันอายุมากที่สุดในญี่ปุ่นบานสะพรั่งสวยงาม คาดกันต้นบ๊วยนี้น่าจะมีอายุมากกว่า 100 ปี

"จิโนะริว" นี้ก็จัดว่าเป็นบ๊วยพันธุ์กิ่งย้อยที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นถัดจาก "เท็งโนะริว" ด้านหลังนั้นก็มีต้นบ๊วยที่มีความสูงกว่า 5 เมตรเรียงรายอยู่ด้วยเช่นกัน

นี่คือต้นบ๊วยสายพันธุ์ "โอโมอิโนะมามะ" ต้นไม้มหัศจรรย์ที่มีดอกไม้สีขาวกับสีแดงบานอยู่ในต้นเดียว บางคราวจะมีแต่สีชมพู บางคราวจะมีแต่สีขาว เพราะเกิดขึ้นไม่แน่นอนจึงได้ชื่อว่า "โอโมอิโนะมามะ (ตามใจฉัน)"

วันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นสีที่ตัดกันสวยงามกับท้องฟ้าสีครามได้ หากต้องการจะเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมละมุนล่ะก็ขอแนะนำให้มา "ยามเช้า" ที่กลิ่นดอกไม้จะชัดเจน

นกก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะบ่งบอกการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ รู้สึกอบอุ่นใจไปกับบ๊วยสีชมพูสวยงามและนกตัวอ้วนกลมแสนน่ารัก

ป่าบ๊วยในเวลาพลบค่ำ ภาพจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นทิวทัศน์ยามราตรี

มีการเปิดไฟประดับหลังจากพระอาทิตย์ตกจะเปลี่ยนบรรยากาศที่เห็นในช่วงกลางวันไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ! ภาพของบ๊วยกิ่งย้อยที่มีแสงสาดส่องและโดดเด่นขึ้นมานั้นช่างน่ามหัศจรรย์ ขอแนะนำให้เข้าสวนในเวลาเย็นหน่อยและค่อยๆ ใช้เวลาอยู่ในสวนสำหรับผู้ที่ต้องการจะถ่ายภาพไฟประดับช่วงกลางคืน เพราะหากออกแล้วครั้งหนึ่งจะไม่สามารถเข้าสวนอีกรอบได้ ภายในสวนมีจุดพักผ่อนและห้องน้ำเตรียมไว้พร้อม

เปิดสวนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี เวลาทำการปกติ คือ 9.00 - 16.00 น. ส่วนเวลาเปิดไฟประดับ คือ 9.00 - 21.00 น.
อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ดอกไม้บาน สภาพอากาศ และอื่นๆ จึงเรียนมาเพื่อทราบ
แนะนำให้ใช้รถเช่าหรือจองบริการรถแท็กซี่เอาไว้ล่วงหน้า

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

>สวนป่าซุซุกะ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าแวะ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าแวะ
ไป "กระเช้าลอยฟ้าโกไซโชะ" โดยนั่งรถบัส 10 นาทีจากสถานียูโนะยามะออนเซ็น สายคินเท็ตสึและเดินต่ออีก 10 นาที สามารถชมจุเฮียว (ต้นไม้น้ำแข็ง) ของภูเขาโกไซโชะได้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมจนถึงกลางเดือนมีนาคมหากสภาพอากาศอำนวย หากโชคดีอาจจะได้ชมโลกสีขาวเงินและโลกสีชมพูพร้อมกันภายในวันเดียว

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

>ภูเขาโกไซโชะ/กระเช้าลอยฟ้าโกไซโชะ

 "อควา อิกนิส (Aqua Ignis)" เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่สงบที่ห้อมล้อมไปด้วยเชิงเขาโกไซโชะ ใช้เวลาเดิน 8 นาทีจากสถานี "ยูโนะยามะออนเซ็น" สายคินเท็ตสึ ที่แห่งนี้เป็นรีสอร์ตครบวงจรทั้ง "การพักผ่อน" และ "อาหาร" คุณจึงจะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในแต่ละวันที่คาตาโอกะออนเซ็น และเอร็ดอร่อยกับขนมหวาน ขนมปังอบเตาหิน อาหารอิตาเลียน และอาหารญี่ปุ่นซึ่งควบคุมดูแลโดยเชฟชื่อดังระดับโลก
แถมยังจะได้เพลิดเพลินกับการเก็บและกินสตรอว์เบอร์รีแบบไม่อั้นเป็นเวลา 40 นาทีในช่วงเดือนธันวาคม - เดือนพฤษภาคมอีกด้วย (โปรดจองล่วงหน้า)

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

>อควา อิกนิส (Aqua Ignis)

นั่งรถแท็กซี่ 15 นาทีจากสถานีชิโรโคะ สายคินเท็ตสึไปซุซุกะเซอร์กิต สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ชูจุดเด่นเรื่องยานพาหนะสุดอลังการ ที่มีทั้งสวนสนุก โรงแรม ร้านอาหาร และอื่นๆ อย่างครบครันตั้งอยู่รอบสนามแข่งรถนานาชาติซึ่งเป็นที่จัดรายการใหญ่ๆ อาทิเช่น Japan Grand Prix F1 และ Suzuka 8 Hours สวนสนุก "Motopia (โมโตเพีย)" มีเครื่องเล่นรวมกว่า 30 ประเภทจึงมั่นใจว่าจะสนุกสนานจนลืมเวล่ำเวลากันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

>ซุซุกะเซอร์กิต

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้