สนุกสนานทั้งครอบครัวกับการเป็นนินจาตลอดวันที่เมืองอิงะ
จุดหมายปลายทางของวันนี้คือเมืองอิงะ หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองแห่งนินจา
เมื่อพวกเราถูกถามว่ายินดีที่จะสวมชุดนินจาในทริปหนึ่งวันที่อิงะนี้หรือไม่ ฉันก็ไม่ลังเลที่จะปรึกษาสามีและลูกชาย แล้วตอบไปว่า "ได้ แน่นอน!" ในทันที แต่แล้วฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า "การได้สวมชุดนินจาเดินเล่นไปรอบๆเมืองจะรู้สึกอย่างไรกันนะ?”
ฉันชื่อไอซิส อาเคมิ มุโต จากเซาเปาโล ประเทศบราซิล ฉันอาศัยอยู่ในจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลากว่า 22 ปีแล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันและสามีเริ่มท่องเที่ยวรอบๆมิเอะแบบไปเช้าเย็นกลับกัน
เราได้พบกับไกด์ในวันนี้ของเรา คุณยาสุดะ ที่สถานีเมืองอุเอโนะและเขาสวมชุดนินจาอยู่ด้วย เขาบอกเราในภายหลังว่านี่เป็นชุดทำงานประจำวันของเขา เจ๋งแค่ไหนที่ได้แต่งตัวเป็นนินจาไปทำงานทุกวัน!
สถานีเมืองนินจาที่มีเพียงหนึ่งเดียว จริงๆ แล้วสถานีนี้เรียกว่าสถานีเมืองอุเอโนะ (อุเอโนะชิ-เอกิ) แต่ฉันสังเกตเห็นเขาเขียนว่าสถานีเมืองนินจาด้วย ซึ่งในความคิดของฉันแล้วมันเข้ากันได้สมบูรณ์แบบทีเดียว
หลังจากแนะนำตัวแล้ว เราก็ไปเดินเล่นรอบๆ สถานีกัน ที่ทางเข้า เราเห็นประติมากรรมมากมายที่เกี่ยวข้องกับนินจา หนึ่งในนั้นคือยักษ์คุไนตัวนี้ที่ลูกชายของฉันพยายามจะยกขึ้นให้ได้
ในเมืองอิงะ คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในระยะที่เดินไปได้จากสถานี สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของนินจา คุมิ-ฮิโมะ (เปียถัก) รวมถึงเทศกาลต่างๆ ได้ และยังตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทญี่ปุ่นอันยิ่งใหญ่อย่างปราสาทอิงะ-อุเอโนะอีกด้วย
เพื่อเป็นการเริ่มต้นเราขอแนะนำครอบครัวของเราให้รู้จักกับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่พิพิธภัณฑ์เหล่านี้ก่อนนะ
ในตอนแรก เราเดินระยะทางสั้นๆจากสถานีไปยังอิงะ คุมิฮิโมะ "คุมิโนะซาโตะ" นี่เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เปลี่ยนความคิดของฉันเมื่อเห็นบางสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ คือเปียถักและเชือก
ฉันไม่รู้จริงๆว่าเชือกถักเปียสามารถใช้ทำงานฝีมือและเครื่องประดับได้หลากหลายขนาดนี้ และวันนี้เราจะมาสัมผัสประสบการณ์ทำเครื่องประดับของเราเองกัน ก่อนอื่น เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของคุมิฮิโมะกันสักเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการสัมผัสประสบการณ์ของเราในวันนี้ เราจะใช้ตัวที่ดูเหมือนจะใช้งานง่าย คือ "มารุได" ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า "แท่นวงกลม"
มีอีกเครื่องที่มีรูปร่างคล้ายแมงมุมและดูจะใช้งานยาก
หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคุมิฮิโมะแล้ว เราก็กลับลงมาชั้นล่างแล้วไปยังห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กแต่สะดวกสบายด้วยพื้นเสื่อทาทามิ
ในบรรดาเครื่องจักรทั้งหมด "มารุได" ดูนั้นเรียบง่าย แต่อย่างไรก็ตาม สต๊าฟบอกว่ายิ่งมีสายไฟอยู่ใน "มารุได" มากเท่าไหร่ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น พวกเราพอใจกับเชือกแค่ 2 สีบวกกับด้ายสีทองที่ให้เสน่ห์เป็นพิเศษ
พวกเขาให้ตัวเลือกเครื่องประดับแก่เราสองสามแบบ ลูกชายของฉันเลือกพวงกุญแจ ส่วนฉันกับสามีตัดสินใจทำสร้อยข้อมือคุมิฮิโมะของตัวเอง จากนั้นเราก็เลือกสีที่เราต้องการจากตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย ทันทีที่เราตัดสินใจเลือก เราก็ได้รับคำอธิบายที่สั้นๆ และสำคัญ สิ่งต่างๆ อาจดูเหมือนยากจนกว่าคุณจะลองทำและนั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริงๆ สิ่งแรกที่ฉันนึกขึ้นได้คือ "เราจะทำได้ไหม?" และคำตอบก็คือ ใด้!
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจระหว่างกระบวนการนี้คือแรงกดที่เราใช้ในขณะเคลื่อนไหว สต๊าฟบอกเราว่าฉันและลูกชายของฉันเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ในขณะที่สามีของฉันออกแรงกดมากกว่าเล็กน้อยและนั่นก็สะท้อนไปยังรูปทรงของเครื่องประดับด้วย
ความแตกต่างที่มองเห็นได้ ความยาวของสร้อยข้อมือของสามีฉัน (= ขนาดวงแหวน) นั้นดูแน่นกว่าของฉัน
ฉันไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในบราซิลและฉันก็รักมันมาก คราวหน้าฉันจะพาเพื่อนๆมาอย่างแน่นอน
อิงะ คุมิฮิโมะ "คุมิโนะซาโตะ"
HP:http://www.kumihimo.or.jp/
Mail:info@kumihimo.or.jp
หลังจากจบประสบการณ์ทำคุมิฮิโมะที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว เราก็เดินเล่นกันเล็กน้อยและมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ถัดไป"พิพิธภัณฑ์ดันจิริ"
ในที่สุดเวลาที่พวกเราทุกคนรอคอยก็มาถึงการสวมชุดนินจา ที่พิพิธภัณฑ์ คุณสามารถเช่าชุดนินจาเพื่อเที่ยวชมรอบๆเมืองได้ทั้งวันโดยเฉพาะบริเวณรอบๆปราสาทและพิพิธภัณฑ์นินจา ชุดมี 4 สีให้เลือก สีดำ น้ำเงิน แดง และชมพู พวกเราแต่ละคนเลือกสีที่แตกต่างกัน
สามีของฉันได้รวมจิตวิญญาณนินจาไว้ด้วยสายตาน่ากลัวที่มองไปด้านข้าง
พิพิธภัณฑ์ดันจิริ (รถแห่ในเทศกาล)
HP:https://www.iga-travel.jp/?page_id=12
Mail:danjiri@ict.ne.jp