

เส้นทางแสวงบุญ
เส้นทางคุมาโนะ
โคโดะ อิเซจิ
สำรวจมิเอะ
เส้นทางคุมาโนะ โคโดะ อิเซจิเป็นเส้นทางแสวงบุญเก่าแก่ที่เชื่อมต่อระหว่าง ศาลเจ้าอิเสะกับคุมาโนะซันซัน ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมของสามศาลเจ้าใหญ่แห่งคุมาโนะ ได้แก่ คุมาโนะฮงกูไทฉะ คุมาโนะฮายาทามะไทฉะและคุมาโนะนาจิไทฉะ เส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางเดินโบราณคุมาโนะ โคโดะ ซึ่งทอดยาวทั่วคาบสมุทรคิอิและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

เส้นทางแสวงบุญที่ได้รับ
การขึ้นทะเบียนเป็น
มรดกโลก
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2004 เส้นทางคุมาโนะ โคโดะ อิเซจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญในเทือกเขาคิอิ แหล่งศักดิ์สิทธิ์ที่รวมอยู่ในการขึ้นทะเบียนนี้ ได้แก่ คุมาโนะซันซันและโคยะซังในจังหวัดวากายามะ
รวมถึง โยชิโนะและโอมิเนะในจังหวัดนารา ยูเนสโกระบุว่าแหล่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงการหลอมรวมกันระหว่างศาสนาชินโตและพุทธศาสนา และเป็นประเพณีศรัทธาในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการสืบทอดและบันทึกไว้อย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 1,200 ปี

เส้นทางมรดกโลก
คุมาโนะ โคโดะ อิเซจิ
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ผู้คนจากทุกชนชั้นในสังคมได้เดินทางแสวงบุญจากศาลเจ้าอิเสะในจังหวัดมิเอะไปยังคุมาโนะซันซันในจังหวัดวากายามะ เส้นทางอิเซจิเป็นหนึ่งในเจ็ดเส้นทางที่รวมกันเป็นคุมาโนะโคโดะ ซึ่งเชื่อมต่อศาลเจ้าคุมาโนะที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรคิอิเข้ากับเมืองอื่น ๆ เช่น อิเสะ
เส้นทางแสวงบุญจากศาลเจ้าอิเสะไปยังคุมาโนะซันซัน เรียกว่า เส้นทางอิเซจิ ซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรคิอิ

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
เป็นเวลากว่าพันปีที่เทือกเขาคิอิถูกเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าทวยเทพสถิตอยู่ นับตั้งแต่สมัยโบราณ ดินแดนแห่งนี้ได้หล่อหลอมความศรัทธาทางศาสนาหลายรูปแบบ รวมถึง ศาสนาชินโต ซึ่งยึดถือความเคารพในธรรมชาติและศาสนาพุทธ ด้วยเหตุนี้ ชูเก็นโดะซึ่งเป็นแนวปฏิบัติแห่ง
การบำเพ็ญเพียรในภูเขา และเป็นการผสมผสานระหว่างศาสนาชินโตกับศาสนาพุทธ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในพื้นที่คุมาโนะซันซัน พร้อมกับเส้นทางแสวงบุญที่นำไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ในช่วงยุคเฮอัน (794-1185) ราชสำนักจากเมืองหลวงเกียวโตในอดีตได้เดินทางอย่างยากลำบากมายังพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้เพื่อตามหาสรวงสวรรค์บนดิน

จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์
เทือกเขาคิอิ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรคิอิ ซึ่งยื่นออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก เส้นทางอิเซจิเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยสันเขาสูงชัน
ซึ่งนักเดินทางและผู้แสวงบุญต้องข้ามผ่านเพื่อไปถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งคุมาโนะ เส้นทางนี้ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางโบราณที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น มีโดดเด่นด้วยทัศนียภาพชายฝั่ง เส้นทางป่า สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และทางเดินหินโบราณ ที่โอบล้อมด้วยต้นสนซีดาร์สูงตระหง่านสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง

สถานที่ท่องเที่ยวและ
วิธีเพลิดเพลินไปกับ
เส้นทางอิเซจิ
หลังจากสักการะ ศาลเจ้าอิเสะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้แสวงบุญเคยเดินผ่านและเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตลอดเส้นทางคุมาโนะโคโดะ อิเซจิ เส้นทางนี้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮานาโนะอิวะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงกับตำนานการกำเนิดชาติญี่ปุ่นและเหล่าทวยเทพหรือ ชิจิริ มิฮามะ ชายหาดที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น รวมทั้งโอนิกะโจ หน้าผาหินรูปร่างแปลกตาที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติราวกับเป็นงานศิลปะและนาขั้นบันไดมารุยามะ เซ็นไมดะ หนึ่งในนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการเกษตรแบบดั้งเดิม
เส้นทางอิเซจิไม่เพียงแต่เป็นเส้นทางแสวงบุญที่มีความสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา
สิ่งที่ต้องห้ามพลาด

เส้นทางมรดกโลก
คุมาโนะ โคโดะ อิเซจิ
เส้นทางระหว่างศาลเจ้าอิเสะและศาลเจ้าคุมาโนะฮายาทามะไทฉะมีความยาวประมาณ 170 กิโลเมตร ผู้แสวงบุญและนักเดินทางที่เดินตามเส้นทางนี้ต้องข้ามช่องเขาหลายแห่ง ตลอดเส้นทางอิเซจิเพื่อไปถึงศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในช่วงที่ท้าทายที่สุดของเส้นทางอิเซจิคือ ทางผ่านยากิยามะซึ่งเต็มไปด้วยเนินเขาสูงชันและเส้นทางลาดชัน ในอดีตเส้นทางนี้เคยเป็นที่หวาดกลัวของผู้แสวงบุญ เนื่องจากมีโจรป่าและหมาป่าชุกชุม
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ยังคงหลงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น พระพุทธรูปหินเก่าแก่ที่ตั้งเรียงรายตามทางเดิน และยังมอบทัศนียภาพอันงดงามของพื้นที่โดยรอบเส้นทางเดินหินที่ปูเรียงกันอย่างประณีตและล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่นั้น ทำให้นักเดินทางในปัจจุบันสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศดั้งเดิมของเส้นทางแสวงบุญในอดีตได้อย่างแท้จริง

ศาลเข้าฮานะ โนะ อิวายะ ปราสาทโอนิกะโจและ
หาดชิจิริ มิฮามะ
ศาลเจ้าฮานะ โนะ อิวายะเป็นหินขนาดมหึมาที่เชื่อกันว่าเป็นทั้งสุสานและศาลเจ้าของ เทพีอิซานามิ โนะ มิโคโตะ มารดาแห่งเหล่าทวยเทพในตำนานญี่ปุ่น หินศักดิ์สิทธิ์นี้มีความสูง 45 เมตร และกว้าง 80 เมตร และถูกเคารพบูชาในฐานะวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้าที่อุทิศให้กับหินก้อนนี้ถือเป็นหนึ่งใน ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ที่เชื่อมต่อระหว่าง ดินแดนแห่งความตาย (ยมโลก) และดินแดนของเหล่าทวยเทพ ศาลเจ้าฮานะ โนะ อิวายะ ตั้งอยู่ใกล้ หาดชิจิริ มิฮามะ ซึ่งเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เพิ่มความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์ให้กับสถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้ ปราสาทโอนิกะโจ ซึ่งเป็นปราสาทหินที่เกิดจากธรรมชาติ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการชมภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้
ปราสาทโอนิกะโจหรือที่แปลว่า "ปราสาทยักษ์" เป็นกลุ่มหินธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีหน้าผาสูงชัน ถ้ำทะเล และตำนานเกี่ยวกับปีศาจ หินเหล่านี้เกิดขึ้นจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว การกัดเซาะของคลื่นทะเล และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานับพันปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดตามแนวเส้นทาง คุมาโนะโคโดะ อิเซจิ หน้าผาและก้อนหินขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างแปลกตา ทำให้หลายคนมองเห็นเงาคล้ายปีศาจทอดยาวไปตามชายฝั่งคุมาโนะเป็นระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร บนยอดเขาของ ปราสาทโอนิกะโจ ยังมี ซากปรักหักพังของปราสาทจากยุคเซ็นโกคุ และเส้นทางเดินป่าที่เชื่อมต่อกับเส้นทางแสวงบุญ คุมาโนะโคโดะ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และตำนานในที่เดียว
หาดชิจิริ มิฮามะเป็นชายหาดที่งดงามทอดยาว 22 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่งของเมืองคุมาโนะ ถือเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นจุดสังเกตที่สำคัญตามเส้นทางคุมาโนะโคโดะ อิเซจิ หาดแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยก้อนกรวดที่ถูกขัดเกลาโดยคลื่นรุนแรงจาก ทะเลคุมาโนะนาดะ ทำให้เกิดทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ ในช่วงฤดูร้อน เต่าทะเลหัวค้อนจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาดแห่งนี้ เป็นภาพที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและระบบนิเวศที่สำคัญของพื้นที่นี้


มารุยามะ เซ็นไมดะ
นาขั้นบันไดมารุยามะ เซ็นไมดะเป็นหนึ่งในนาขั้นบันไดที่ใหญ่และสวยที่สุดในญี่ปุ่น คำว่า เซ็นไมดะ มีความหมายตามตัวอักษรว่า "นากว่าพันแปลง" ปัจจุบันมีแปลงนาข้าวจำนวน 1,340 แปลง กระจายตัวอยู่บนเนินเขาสูงชันของภูเขาชิราคุระในเมืองคุมาโนะ ความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนในบริเวณนี้สร้างกระแสลมที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี
หนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของนาขั้นบันไดมารุยามะ เซ็นไมดะ คือ ช่องเขาโทริโทเกะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแสวงบุญไปยัง ศาลเจ้าคุมาโนะฮงกูไทฉะ ช่วยให้ผู้มาเยือนได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของนาขั้นบันไดที่เรียงตัวลดหลั่นอย่างเป็นระเบียบท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
